นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เผยว่าจากนโยบายหลักด้านหนึ่งของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ คือการส่งเสริมและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการไทย ขยายช่องทางการตลาดรวมทั้งส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการ ซึ่งการจัดโครงการคัดเลือกสินค้าไทยที่มีการออกแบบดีปี 2563 หรือรางวัล Design Excellence Award 2020 (DEmark) เป็นโครงการที่ตั้งใจจัดทำขึ้น เพื่อสนับสนุนให้นักออกแบบไทยได้มีโอกาสแสดงผลงานเป็นที่ประจักษ์ ตอบสนองนโยบายด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าและบริการ ใช้โอกาสนี้พัฒนาสินค้า พัฒนาผู้ประกอบการ
ทั้งเป็นการเตรียมความพร้อมเน้นสร้างความเข้มแข็งให้นักออกแบบและผู้ประกอบการไทย ให้สามารถทะยานก้าวกระโดด หลังจากที่เศรษฐกิจโลกผ่านพ้นวิกฤติ และกลับมาฟื้นตัวสู่สภาวะปกติ ซึ่งในปีนี้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 13 โดยกรมได้รับความร่วมมือจากสถาบันส่งเสริมการออกแบบแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ Japan Institute of Design Promotion (JDP) ในการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากรางวัล Good Design Award (G-mark) ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นรางวัลด้านการออกแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลมาร่วมพิจารณาตัดสิน DEmark และสนับสนุนผลงานที่ได้รับรางวัล DEmark เข้าร่วมการประกวดรางวัล G-mark ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงยังให้ความร่วมมือด้าน อื่น ๆ เพื่อให้รางวัล DEmark ได้มาตรฐานสากล
รางวัล DEmark จะช่วยส่งเสริมการออกแบบสินค้าของผู้ประกอบการไทย โดยใช้ตราสัญลักษณ์ DEmark เป็นเครื่องหมายรับรองผลงานที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ สร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าไทย รวมถึงยกระดับสินค้าที่มีการออกแบบดีให้เป็นที่ยอมรับแพร่หลายในตลาดโลก เพื่อประโยชน์ทางการค้า และเกิดความภาคภูมิใจเป็นแบบอย่างในการพัฒนาด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ของประเทศต่อไป โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ นักออกแบบ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก โดยคาดหวังว่าจะมีผู้สมัครกว่า 600 รายการ และมีผลงานที่ได้รับรางวัล DEmark จำนวนมากกว่า 60 รายการ รางวัล DEmark ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Circular Design, Cycle of Life ดีไซน์หมุนเวียนเปลี่ยนโลก
ทั้งนี้เพราะแนวโน้มของการใช้ทรัพยากรของโลกอย่างรู้คุณค่า กำลังได้รับการใส่ใจมากขึ้น ระบบเศรษฐกิจได้ก้าวข้ามสู่การพัฒนา อย่างยั่งยืน เป็นการออกแบบเศรษฐกิจที่เน้นการนำวัสดุกลับมาใช้ใหม่เป็นวงจรไม่รู้จบ หัวใจสำคัญคือการกลับไปทำความเข้าใจการออกแบบและการทำงานของธรรมชาติ ซึ่งเป็นระบบการผลิตแบบหมุนเวียนที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด และไม่มีของเหลือใช้เกิดขึ้น การออกแบบหรือดีไซน์ จึงเปรียบเสมือนก้าวแรกที่เป็นกุญแจสำคัญในการนำไปสู่ Circular Economy เพื่อการพัฒนาและนำไปใช้อย่างยั่งยืน ในปีนี้มีการพิจารณารางวัลใน 7 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ (Industrial Process / Industrial Craft) 2. กลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ (Gift & Decorative Items / Household Items) 3.กลุ่มความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมผลิตภัณท์แฟชั่นเครื่องแต่งกาย (Creative & Innovative Fashion / Apparel / Jewelry / Textile / Etc. 4.กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและดิจิทัล (Home Appliances/ Equipment and Facilities for Office / Digital Appliances / Equipment / IOT / Etc. ) 5. กลุ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์ (Packaging Design) 6. กลุ่มผลงานกราฟฟิกดีไซน์ (Font / Graphic on Surface / Digital Media / Identity Design) และ 7. กลุ่มผลงานออกแบบตกแต่งภายในที่เกี่ยวข้องกับโรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านค้า พื้นที่ทำงานร่วมกัน อาคารชุด (Hotel / Restaurant / Café/ Retail Shop/ Co- Working Space / Condominium Project)
สำหรับผู้ได้รับรางวัล DEmark จะได้รับสิทธิประโยชน์จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เช่น สามารถใช้โลโก้ DEmark ในการส่งเสริมการขายสินค้าได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ได้รับส่วนลดค่าใช้จ่ายสมทบโครงการร้อยละ 50 ในการเข้าร่วมงาน แสดงสินค้าในต่างประเทศที่กรมฯเข้าร่วม (ไม่เกิน 3 ครั้งในเวลา 1 ปี) ได้รับการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ ผ่านการโฆษณาในสื่อต่างๆ รวมทั้งนำสินค้าไปจัดแสดงนิทรรศการทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับรางวัล Demark จะได้เข้ารอบ 2 ของการประกวดรางวัล G-mark ประเทศญี่ปุ่นโดยทันที โดยระหว่างปี 2551 – 2562 มีสินค้าได้รับรางวัล DEmark 821 รายการ ( ปี 2562 ได้รับรางวัล DEmark 72 รายการ) มีสินค้าได้รับรางวัล G-Mark 449 รายการ (ปี 2562 ได้รับรางวัล G-Mark 21 รายการ) โดยนักออกแบบ/ผู้ประกอบการสามารถใช้ตราสัญลักษณ์ความร่วมมือ Demark และ G-mark เพื่อช่วยส่งเสริมสินค้าและผลงานเป็นช่องทางทางการค้าต่อไป
โครงการ DEmark Award 2020 เปิดรับสมัครทั้งรูปแบบของบริษัทและนักออกแบบอิสระ ซึ่งผู้สมัคร 1 ราย หรือ 1 บริษัท สามารถสมัครได้มากกว่า 1 ผลิตภัณฑ์ แต่ไม่เกิน 5 ผลิตภัณฑ์ และจะต้องเตรียมเอกสารการสมัครและเอกสารประกอบต่างๆ ให้ครบทุกผลิตภัณฑ์ สามารถสมัครตั้งแต่วันนี้ - 15 พฤษภาคม 2563