นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เห็นชอบมาตรการชุดที่ 3 เพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบเศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ด้วยการเข้าไปดูแล 3 กลุ่ม คือ 1.การดูแลภาคประชาชน เริ่มจากการดูแลกลุุ่มเกษตรกร ผู้ประกอบการลูกจ้างที่อยูู่ในระบบประกันสังคมและลูกจ้างชั่วคราว รวมทั้งจะมีมาตรการผ่อนชำระสินเชื่อเพิ่มเติมในส่วนของสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์
กลุ่มที่ 2 การดูแลโครงสร้างเศรษฐกิจจริง การดูแลผู้ประกอบการและสังคม ด้วยการจัดงบประมาณสำหรับการดูแลด้านสาธารณสุข และชุดมาตรการที่ดูแลในระดับพื้นที่ การเสริมสร้างอาชีพโอกาสใหม่ๆให้กับพื้นที่และภาคประชาชน การลงทุนภาครัฐเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมในพื้นที่ทั่วประเทศ
และ กลุ่มที่ 3 การดูแลภาคเศรษฐกิจการเงิน โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะทำโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เหมือนที่เคยทำมาในอนาคต โดยธปท.จะเสนอให้ครม.เห็นชอบอย่างเป็นทางการพร้อมพระราชกำหนดในวันอังคารที่จะถึงนี้
นอกจากนี้กลต.และธนาคารแห่งประเทศไทยยังร่วมกันพิจารณามาตรการดูแลตลาดตราสารหนี้ที่มีมูลค่า 3.5 ล้านล้านบาท โดยธปท.ได้ขอหลักการการสร้างหลังพิงให้กับตลาดตราสารหนี้ โดยขอให้ธปท.ออกพระราชกำหนดให้ธปท. สามารถเข้าไปซื้อตราสารหนี้ที่ครบกำหนด เพื่อโรลโอเวอร์ ได้
นอกจากนี้ยังขอให้ขยายระยะเวลาคุ้มครองเงินฝากออกไปจาก 5 ล้านบาท เหลือ 1 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดในเดือนสิงหาคมปีนี้ เป็นสิ้นสุดเดือนสิงหาคมปี 2564 รวมทั้งให้ลดเงินนำส่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและสถาบันการเงิน ของสถาบันการเงิน
สำหรับวงเงินทั้งหมดที่จะใช้ประมาณ 10% ของจีดีพี ซึ่งส่วนหนึ่งจะมาจากงบประมาณ ส่วนที่เหลือที่งบประมาณไม่สามารถทำได้ ก็จะมีการกู้ยืมโดยกระทรวงการคลัง และอีกส่วนหนึ่งเป็นการออกพรก.โดยแบงก์ชาติ ซึ่งจะมีการหารือกับสำนักงบประมาณ และเสนอให้ครม.พิจารณาอีกครั้งในวันอังคารหน้า