"วีระศักดิ์"แนะรัฐจ้างงานท่องเที่ยวช่วยธุรกิจ

26 เม.ย. 2563 | 12:07 น.

“วีระศักดิ์” แนะรัฐช่วยจ้างงานท่องเที่ยวช่วยธุรกิจ ทั้งเผยระบบราชการมีความเข้าใจในอุตสาหกรรมเดินทางท่องเที่ยวไม่มากนัก ส่งผลให้คิดการช่วยเหลือแก้ไขเพียงบางส่วน

          วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้รับผลกระทบเป็นอันดับแรก และเชื่อว่าจะเป็นภาคท้ายๆที่จะฟื้นตัว เพราะต้องรอให้ธุรกิจการบินเริ่มทำการบินก่อน จากนั้นจึงจะเริ่มป้อนลูกค้าให้กับโรงแรมและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจึงกลับมาได้

\"วีระศักดิ์\"แนะรัฐจ้างงานท่องเที่ยวช่วยธุรกิจ
          ภาครัฐควรหาวิธีนอกจากการแจกเงินให้ประชาชน ควรต้องหาการจ้างกิจการให้มาก เช่น จ้างงานของแรงงานในภาคการท่องเที่ยว เพื่อดูแลส่วนต่างๆ โดยเฉพาะคนไทยที่เดินกลับจากต่างประเทศเหล่านี้ต้องมีกระบวนการต่างๆ มากมาย เพียงแค่รัฐจ้างงาน
          เช่นจะมีคนไทยในต่างประเทศเดินทางกลับเข้ามาตามกำหนดการ รัฐก็จ้างรถบัสท่องเที่ยวไปรับ, จ้างผู้แปลภาษาในการสื่อสาร, จ้างครัวโรงแรมทำอาหาร เป็นต้น จะเกิดการขับเคลื่อนของซัพพลายเชน

          โดยยังไม่ต้องจ่ายทันทีแต่จะเป็นการเปิดคำสั่งซื้อสั่งจ้าง (Job Order) เอาไว้ก่อนแล้วจ่ายทีหลัง สิ่งที่จะได้คือจะได้หนังสือจ้าง ใบสั่งงาน เพื่อไปแสดงต่อสถาบันการเงินในการพิจารณาวงเงินต่างๆ ช่วยการเข้าไม่ถึงแหล่งเงินให้เข้าถึงง่ายขึ้น เวลานี้ไม่ใช่เรื่องการประหยัดเงินของรัฐแล้ว แต่เป็นการช่วยกระจายให้ประชาชนและกลไกต่างๆ ทางเศรษฐกิจให้เริ่มเคลื่อนตัวได้
          ปัจจุบันมองว่าอำนาจของระบบราชการมีความเข้าใจในอุตสาหกรรมเดินทางท่องเที่ยวไม่มากนัก ขณะที่วิธีการคิดในขณะนี้อาจจะคิดเฉพาะการช่วยเหลือแก้ไขเพียงบางส่วน ไม่ได้คิดทั้งกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นการบริการอาหาร จัดหาวัตถุดิบ การขนส่ง รวมถึงโรงแรม เมื่อผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นเกิดขึ้นในวงกว้างแต่ขณะเดียวกันแนวทางการช่วยเหลือมีเพียงบางส่วน
        เช่น  ประกันสังคม ก็จะพิจารณาแต่เฉพาะคำสั่งของรัฐที่ประกาศแล้วเท่านั้น ทำให้มองเห็นภาพการสื่อสารของหน่วยงานรัฐต่อหน่วยงานรัฐ และหน่วยงานรัฐต่อระบบซัพพลายเชนของเอกชนแปลว่าความรู้ไม่มากพอ แต่เวลานี้ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปิดระบบการรับฟังแล้ว
Learning By Doing ไปพร้อมกัน เมื่อรับฟังเสร็จแล้วก็เอาไปเสียบปลั๊กในที่ต่างๆ ของระบบราชการให้ตรงจุด ซึ่งเมื่อรับฟังแล้วจะได้รับรู้ข้อจำกัดของกันและกันทั้งภาครัฐและเอกชน
         ภาคเอกชนเรียกร้องกับรัฐมาตลอดเวลาเกิดวิกฤติ คืออยากได้สภาพคล่อง  เอกชนไม่ได้ต้องการเงินกู้ทีเดียว
10 ล้านบาท แต่แค่ต้องการสภาพคล่อง 2-3 ล้านบาท แต่สิ่งที่รัฐให้มาคือให้น้ำมาตุ่มหนึ่งแล้วให้เอกชนไปตักกันเอง เมื่อเอกชนไปตักกันเองแล้วก็จะเจอกับผู้บริหารสถาบันการเงินซึ่งก็ไม่คุ้นเคยกับอุตสาหกรรมการบริการและท่องเที่ยว ก็จะต้องมีการตั้งเงื่อนไขให้แสดงต่างๆมากมายสุดท้ายความช่วยเหลือก็ไปไม่ถึงอยู่ดี นายวีระศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย