นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนในคณะที่ปรึกษาด้านธุรกิจภาคเอกชนใน ศบค. ได้มีการเสนอแนวทางการผ่อนคลายภายหลังขยายเวลาประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอีก 1 เดือน
โดยแบ่งธุรกิจเป็น 4 สี ได้แก่ "สีขาว" เป็นธุรกิจที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน สามารถให้เปิดดำเนินการได้ เป็นสถานประกอบการขนาดเล็กในที่โล่งแจ้ง หรือร้านขนาดเล็กควบคุมได้ สวนสาธารณะ, " สีเขียว" สถานที่ประกอบการขนาดเล็กอาจติดแอร์หรือไม่ติดแอร์ แต่เป็นพื้นที่ที่ไม่มาก สถานออกกำลังกายกลางแจ้ง," สีเหลือง" เป็นสถานที่ปิดมีคนมาจำนวนมาก ติดแอร์ และ "สีแดง" ที่มีความเสี่ยงสูง คนแออัด ยังไม่ให้เปิด เช่น สนามมวย สถานบันเทิง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปทั้งหมด เป็นเพียงแบ่งเป็นขั้นๆไว้
หลักการนี้นายกฯให้ความเห็นชอบ แต่ต้องลงรายละเอียด และนายกฯระบุว่า ถ้าเลือกกิจการใดมาแล้วอยากให้เปิดได้หมดทั้งประเทศ พร้อมกันทุกจังหวัด ไม่ใช่บางพื้นที่ เพื่อประเมินดู โดยมอบให้คณะที่ปรึกษาฯไปพูดคุยลงในรายละเอียด ซึ่งจะมีการประชุมในช่วงบ่ายวันเดียวกัน (27 เม.ย.) ก่อนนำเสนอ ครม.ในวันที่ 28 เม.ย.
“มาตรการเหล่านี้ไม่ได้เร่งรีบ ให้มั่นใจแล้วค่อยเปิด และเมื่อเปิดแล้วต้องประเมิน ถ้าดีก็ผ่อนปรนต่อ ถ้าไม่ดีก็ปิด อันนี้เป็นหลักการ และขอย้ำว่า ขณะนี้เรารอมียารักษาและวัคซีน ถ้าสองอย่างนี้เกิดขึ้นได้ก็จะกลับมาใช้ชีวิตปกติ แต่ตอนนี้เรายังอยู่ในภาวะการณ์ที่ต้องเผชิญกับไวรัส เราต้องปรับตัว”นพ.ทวีศิลป์กล่าวทิ้งท้าย