ครม.เห็นชอบ "4ธันวาคม" เป็น “วันรู้รักสามัคคี” ตามพระราชดำรัส "ในหลวงร.9"

12 พ.ค. 2563 | 07:30 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ค. 2563 | 02:19 น.

ที่ประชุมครม. เห็นชอบให้ 4ธันวาคม ของทุกปีเป็น “วันรู้รักสามัคคี” ตามพระราชดำรัส "ในหลวงร.9" ให้ประชาชนร่วมใจให้เกิดความเจริญแก่ประเทศชาติ   

วันที่ 12 พ.ค. 63 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบให้ วันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี เป็น “วันรู้รักสามัคคี”  เป็นวันสำคัญของชาติ โดยไม่ถือเป็นวันหยุดราชการ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ตระหนักถึงคุณค่า ความสำคัญและนำไปสู่การปฏิบัติด้วยความสามัคคี รู้จักหน้าที่และส่งเสริมกันให้เกิดความเจริญแก่ประเทศชาติ

   

ทั้งนี้ แนวคิดการกำหนดวันรู้รักสามัคคีปรากฏขึ้นครั้งแรกในกระแสพระราชดำรัส "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2534  

โดยคำว่า “รู้ รัก สามัคคี” มีความหมายลึกซึ้ง สามารถปรับใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย รู้ คือ การลงมือทำสิ่งใดนั้น จะต้องรู้เสียก่อนรู้ถึงปัจจัยทั้งหมด รู้ถึงปัญหา และรู้วิธีการแก้ปัญหา รัก คือ ความรัก เมื่อเรารู้ครบถ้วนด้วยกระบวนความแล้วจะมีแรงกระตุ้นให้ทำงานด้วยความเต็มใจ  และสามัคคี  คือ การที่จะลงมือปฏิบัตินั้น ควรคำนึงถึงเสมอว่าเราจะทำงานคนเดียวไม่ได้ ต้องทำงานร่วมมือร่วมใจ เป็นองค์กร เป็นหมู่คณะ จึงจะมีพลังเข้าไปแก้ปัญหาให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี

 

ประกอบกับวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีเป็นวันชาติ ดังนั้น การกำหนดให้วันที่ 4 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันรู้รักสามัคคี ก็จะสามารถลำดับและดำเนินกิจกรรมได้สอดคล้องให้ตระหนักถึงความสามัคคีนำไปสู่ความเป็นชาติ  

ดังนั้น การกำหนดให้มีวันรู้รักสามัคคี ดังพระราชประสงค์ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นการเทิดพระเกียรติ น้อมรำลึกและสืบสานพระราชปณิธานของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงห่วงใยประชาชน และแสดงถึงการมีจิตใจเสียสละร่วมกันดำเนินการด้วยความรัก ความสามัคคี