วันที่ 17 มิ.ย. 2563 ที่ศูนย์ประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. พล.ต.ท.จิรวัฒน์ ทิพยจันทร์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 (ผบช.ภ.8) เป็นประธานเปิดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การใช้วิทยุดิจิตัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานป้องกันปราบปราม อาชญากรรม สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต โดยข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต จำนวน 1,328 นาย และข้าราชการตำรวจหน่วยร่วมปฏิบัติที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เข้าร่วมอบรม 2 รุ่น 2 วัน
เนื่องจากการก่ออาชญากรรมปัจจุบัน ได้พัฒนารูปแบบ วิธีการ และใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ มีการศึกษาการปฎิบัติงานของตำรวจ เพื่อหลีกเลี่ยงหลบหนีการจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฎิบัติงานด้านต่าง ๆ ตจ้องปรับรูปแบบการทำงาน ให้มีความรู้เทคโนโลยี การใช้เครื่องมีออุปกรณ์ที่ทันสมัยและสถานการณ์ มีการสื่อสารด้วยความรวดเร็วในการ ติดตามคนร้ายเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น และผู้บังคับบัญชาสามารถควบคุม สั่งการ ติดตามและบริหาร สถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้พัฒนารูปแบบการทำงาน โดยการใช้แอปพลิเคชั่น Police gophuket สำหรับลงทะเบียนเข้า – ออกจังหวัดภูเก็ต และการติดตั้งระบบวิทยุสื่อสารดิจิตัล ให้แก่สถานีตำรวจภูธรในสังกัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายจะได้รับวิทยุดิจิตัลประจำตัว เพื่อปฏิบัติงานให้ได้มาตรฐานสากลของการติดต่อสื่อสาร ที่มีทั้งภาพ เสียง และข้อมูลในยุค 4 G จึงจัดอบรมครั้งนี้ เพื่ออบรมวิธีใช้งานวิทยุดิจิตัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรมขึ้น โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาสัมมนา และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ศักยภาพวิทยุสื่อสารดิจิตัล
พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า การฝึกอบรมตำรวจภูธร จังหวัดภูเก็ตในครั้งนี้ เพื่อเดินหน้าไตรมาสสุดท้ายในการใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีทั้งหมด ซึ่งเป็นเครื่องมือในยุคดิจิตอล เพื่อนำมาใช้พัฒนาระบบของตำรวจภูเก็ต ในการสร้างความพร้อมที่จะรับนักท่องเที่ยวและประชาชน ที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นจังหวัดท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของประเทศ โดยเตรียมให้ตำรวจมีความพร้อม ที่จะให้บริการประชาชนบนเกาะจำนวน 7-8 แสนคน ให้ดีที่สุด
ทั้งนี้ กำลังพลตำรวจในจังหวัดมีจำนวนทั้งสิ้น 1,328 นาย วันนี้ได้จัดให้มาประชุมเพื่อทำความเข้าใจร่วมกัน ในการใช้งานวิทยุสื่อสารระบบดิจิตอล จากเดิมที่เราใช้ระบบอนาล็อกมานาน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้สั่งการและมอบวิทยุสื่อสารระบบดิจิตอล จำนวน 1,400 เครื่อง มาให้กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต
ดังนั้น เราจึงต้องมาทำความเข้าใจเปิดวิสัยทัศน์ร่วมกันให้กับตำรวจทุกนาย เพื่อพร้อมที่จะรองรับการก้าวสู่ยุค “Digital Policing” ซึ่งเหมาะกับเมืองท่องเที่ยว ตำรวจจะต้องดูแลพื้นที่ทั้ง 543 ตร.กม. ของจังหวัดภูเก็ต ด้วยกำลังพล 1,328 นาย เมื่อเทียบกับเจ้าหน้าที่รปภ.ที่ดูแลสนามบินภูเก็ตแห่งเดียว ก็มีถึง 1,200 คน จึงต้องใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มศักยภาพการปฎิบัติงานให้อยู่ในระดับสูงสุด"
ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวอีกว่า การพัฒนาตำรวจภูเก็ตสู่ยุคดิจิทัลนี้ ยังได้รับการได้รับการสนับสนุนในเบื้องต้นจากองค์กรภาคเอกชนในรูปแบบมูลนิธิ อาทิเช่น กต. ตร. จังหวัดภูเก็ต และภาคเอกชน ที่เห็นถึงความสำคัญ จึงได้สนับสนุนยกระดับการคัดกรองหน้าด่านท่าฉัตรไชย ด้วยระบบ Phuket Smart Check Point ที่เชื่อมโยงข้อมูลในระบบดิจิทัล ทำงานร่วมกับการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นเอไอ เพิ่มประสิทธิภาพการคัดกรองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่พัฒนาระบบ แพลตฟอร์ม (Platform) หรือระบบปฏิบัติการแอปพลิเคชั่น สำหรับสื่อสารระหว่างตำรวจกับนักท่องเที่ยวและประชาชน ผ่านระบบมือถือสมาร์ทโฟน ทำให้ง่ายต่อการติดต่อสื่อสาร และการแจ้งเหตุ
ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่เหมาะในการที่จะบูรณาการเทคโนโลยีสมัยใหม่ มาใช้ประโยชน์ในการป้องกันอาชญากรรม ยาเสพติด การก่อวินาศกรรม ตลอดจนอุบัติเหตุ อุบัติภัยต่างๆ รวมถึงการช่วยในช่วงวิกฤติไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งนำมาใช้ได้ทันท่วงที และสามารถพัฒนาต่อยอดได้ในอนาคตต่อไปข้างหน้า
ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนมาใช้วิทยุสื่อสารระบบดิจิตอล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก บริษัทหัวเหว่ยประเทศไทย จำนวน 1,400 เครื่องในครั้งนี้ เพราะหัวเหว่ยได้ได้รับเลือกในการดำเนินการของศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ซึ่งพลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้จังหวัดภูเก็ตนำมาใช้ในการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะเริ่มใช้ในสัปดาห์หน้าต่อไป โดยหัวเหว่ยจะต้องสนับสนุนเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นต่อไปในอนาคต