วันที่ 4 กรกฎาคม 2563 ที่หอประชุมโรงเรียนหล่มเก่าพิทยาคม จังหวัดเพชรบูรณ์ นายนิพนธ์ บุญญามณีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ ที่ปรึกษารมช.มหาดไทย พร้อมคณะ อาทิ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , นายอรัญ วงศ์อนันต์ คณะที่ปรึกษารมช.มหาดไทย นายธนิตพล ไชยนันทร์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข , นายณรงค์ สืบตระกูล รองอธิบดีกรมที่ดิน
โดยมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการร่วมลงพื้นที่ติดตาม และแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์
นายนิพนธ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาครั้งนี้มี 4 กรณี คือ
1. การสร้างโรงงานยางแอสฟัลท์ติก (ยางมะตอย)ในพื้นที่ ต.นางั่ว อ.เมืองเพชรบูรณ์ ที่ชาวบ้านในพื้นที่และสภาเทศบาล ร่วมทำประชาคมคัดค้านแต่ทางอุตสาหกรรมจังหวัดกลับอนุญาตให้ก่อสร้าง โดยไม่ฟังเสียงชาวบ้าน
2. กรณีเจ้าของรีสอร์ทและชาวบ้านในเขตอำเภอเขาค้อ รวม 135 ราย ถูกดำเนินคดี จากจำนวน 1,000 กว่าราย ที่ทางจังหวัดมีมาตรการผ่อนปรน แต่ไม่ครอบคลุมถึงกลุ่ม 135 ราย และการทำตามแผนแม่บทแก้ไขปัญหาพื้นที่ภูทับเบิก
3.กรณีปัญหาการครอบครองที่ดินทำกินของชาวบ้านในเขตพื้นที่ อำเภอหล่มเก่า หล่มสักและอำเภอเมืองเพชรบูรณ์
4.กรณีการจัดหาพืชปลูกทดแทนการปลูกใบยาสูบ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ให้ชาวบ้าน
ทั้งนี้ ได้รับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนแล้ว ในกรณีของการถือครองที่ดินของชาวบ้านมีรายละเอียดแต่ละพื้นที่ต่างกัน คือ
1.การแก้ไขปัญหาที่ดินบ้านขี้นาค ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า
2.กรณีขอให้มีการตรวจสอบพิกัดตำแหน่งที่สาธารณประโยชน์ ตำบลบ้านโคกตาด อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ที่ชาวบ้านรวม 26 ราย ถูกดำเนินคดี มีบางรายคดีถึงที่สุดแล้ว แต่บางรายอยู่ในชั้นฎีกา ซึ่งในระหว่างถูกดำเนินคดีชาวบ้านไม่มีหลักฐานมาพิสูจน์ว่า ไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะประโยชน์ แต่ต่อมามีหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศจากกรมแผนที่ทหารว่า ชาวบ้านไม่ได้อยู่ในที่ดินแปลงที่ถูกดำเนินคดี
3.การแก้ไขปัญหาที่ดินในตำบลสักหลง อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ และ 4.การออกโฉนดที่ดินตามหลักฐาน น.ส.3 และ ส.ค.1 จำนวน 170 แปลง ในพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ โดยได้กำชับให้ทางจังหวัดเร่งแก้ไขปัญหา และให้ความเป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนโดยยึดหลักกฎหมาย
นายนิพนธ์ กล่าวว่า นอกจากการติดตามแก้ไขปัญหาข้างต้นให้ชาวบ้านในพื้นที่นี้แล้ว ยังได้กำชับถึงผู้ว่าฯ และส่วนราชการในพื้นที่ รวมถึง ปภ.จังหวัด ให้เตรียมการรองรับการแก้ไขปัญหาอุทกภัย น้ำท่วมน้ำหลากในช่วงฤดูฝนในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์
รวมถึงกรณีการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าให้ทุกภาคส่วนรักษามาตรการคุมเข้มการคัดกรองบุคคลตามมาตราการของรัฐบาล ซึ่งแม้ว่าประเทศไทยจะไม่พบผู้ติดชื้อโควิด-19 ในประเทศมาตลอด 40 วันแล้ว ยกเว้นคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศที่ยังพบการติดเชื้อประปราย แต่ก็อยู่ในที่พักกักตัวของรัฐ ก็ขอให้รักษามาตรการคุมเข้ม การ์ดอย่าตก อย่าประมาทในเรื่องนี้
เช่นเดียวกับที่ทางจังหวัดและส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่นต่างๆในพื้นที่ต้องร่วมกันรณรงค์ให้ความรู้ ความเข้าใจ ในการรักษาความปลอดภัยบนท้องถนน และต้องสำรวจเส้นทางการขึ้น- ลงเขา สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัด ที่ต้องซ่อมบำรุงเส้นทาง ลดจุดเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากการใช้รถ ใช้ถนน โดยเฉพาะทางขึ้นเขา-ลงเขาในช่วงหน้าฝนต้องแก้ไข และอำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนเป็นหลัก
ทั้งนี้ตั้งแต่เดือน ม.ค.-มิ.ย. 2563 มีสถิติผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนทั้งประเทศ รวม 7,400 กว่ารายดังนั้นในช่วงวันหยุดยาว 4 วันนี้ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติมาก ขอให้ทุกภาคส่วนให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนนด้วย
“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลจะดูแล แก้ไขปัญหาต่างๆให้ วันนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยจะเร่งรัดแก้ไขให้ เช่นเดียวกับทางจังหวัดที่ต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาเหล่านี้เพราะกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชน” นายนิพนธ์ กล่าวและขอบคุณท่าน อดีตส.ส. ยุพราช บัวอินทร์ ที่ได้ประสานงานในพื้นที่มาโดยตลอด