"ทุนแนวใหม่"ปัตตานีแจก"การศึกษาควบอาชีพ"

แจก"ทุนแนวใหม่"  2 สมาคมปัตตานีร่วมหาทุนการศึกษา และพิจารณาร่วมกับภาคประชาสังคมแต่ละพื้นที่ คัดเลือกครอบครัวเป้าหมาย 100 ราย ที่ยากจนมีภาระการศึกษาของบุตรหลาน โดยมอบทั้งทุนการศึกษาให้นักเรียนและทุนประกอบอาชีพผู้ปกครองเพื่อความยั่งยืน ชมรมสื่อสารมวลชนฯมอบ 3 รางวัลคนสู้ชีวิต"ต่อยอด 5,000 สู้โควิด"จนสร้างอาชีพและรายได้เพิ่ม

วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ ห้องประชุมอาคาร ทีเค พาร์ค เทศบาลเมืองปัตตานี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ร่วมเป็นเกียรติในพิธีมอบทุนการศึกษาแนวใหม่แก่นักเรียนยากจน จำนวน 100 ครัวเรือน 
    

กล่าวคือ สมาคมชาวปัตตานี โดยนายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคม และสมาคมเครือข่ายเยาวชนพัฒนาบ้านเกิด จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนายอับดุลปาตะ ยูโซ๊ะ นายกสมาคม ได้ร่วมกันหาทุนการศึกษา และพิจารณาร่วมกับภาคประชาสังคมในแต่ละพื้นที่ คัดเลือกครอบครัวยากจนที่มีภาระที่จะต้องดูแลลูกหลานที่เป็นนักเรียน โดยมีความมุ่งหมายที่จะให้เงินเพื่อการเรียนของเด็ก และให้การอาชีพแก่ผู้ปกครอง 
    

กำหนดเงินทุนการศึกษา 2 ส่วน ส่วนแรก ให้สำหรับสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษา เช่น กระเป๋า รองเท้าถุงเท้า โต๊ะเขียนหนังสือที่บ้าน ในวงเงิน 1,000 บาท และส่วนที่ 2 ให้เงินสนับสนุนการอาชีพการเกษตรแก่ผู้ปกครองอีก 2,000 บาท โดยในส่วนงานอาชีพจะขอรับการสนับสนุนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ถือเป็นครัวเรือนเป้าหมายด้วย และเพื่อให้งานสนับสนุนการอาขีพให้ได้ผลจริงจัง ได้กำหนดแนวทางประสานงานกับโรงเรียน ให้จัดครูเยี่ยมบ้านนักเรียนเหล่านี้ เพื่อเร่งรัด เป็นพี่เลี้ยง และทางสมาคมเครือข่ายเยาวชนเองก็ได้จัดสมาชิกติดตามรายงานผลในอีกทางหนึ่งด้วย  
    

นายภาณุ อุทัยรัตน์ นายกสมาคม ชาวปัตตานี กล่าวว่า ได้บอกเล่าถึงแนวทางในการแจกทุนการศึกษารูปแบบใหม่นี้ ปรากฏมีคนให้ความสนใจ และขอมีส่วนร่วมในการให้ทุนครั้งนี้ เป็นผู้ใหญ่ใจดีจำนวน 6 ราย เป็นเงินรวม 210,000 บาท ทางสมาคมออกสมทบอีก 90,000 บาท และจากบรรยากาศในงานครั้งนี้ ทุกคนคาดหวังตรงกันว่า รูปแบบการให้ทุนการศึกษาครั้งนี้จะเป็นตัวอย่างสำหรับการจัดการในทุนการศึกษาที่อื่น ๆ ต่อไป 
 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดแล้ว"เทศกาลทุเรียนดีพวงมณียะรัง"

ปัตตานีเมืองงามวัฒนธรรม สันติสุขแห่งแดนใต้

จากนั้นนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ มอบรางวัลแก่ประชาชน ที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับรางวัล จากโครงการ"ต่อยอด 5,000 ต่อสู้โควิด" โดยมีนายรพี มามะ ประธานชมรมสื่อมวลชนเพื่อสันติจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการดังกล่าวนี้ให้ข้อมูลว่า ในคราวที่รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ดำเนินโครงการเราไม่ทิ้งกัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากพิษภัยไวรัสโควิด-19 ให้เงิน 5,000 บาท จำนวน 3 เดือน แก่บุคคลผู้มีอาชีพอิสระ ถือเป็นเงินช่วยเหลือยามวิกฤติ ให้ประชาชนได้ใช้จ่ายในระยะสั้น ๆ     
  

 แต่ในโอกาสเดียวกันนี้ ก็มีบางคนที่ได้ใช้เงินเดือนละ 5,000 ดังกล่าว ไปเป็นทุนสร้างอาชีพ ซึ่งถือเป็นตัวอย่าง และสื่อในเวลานั้นได้นำไปขยายผลเป็นตัวอย่างแก่คนอื่น ๆ ต่อไปด้วย และได้ผลเป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อล่วงเลยเวลา 3 เดือนที่สิ้นสุดโครงการ กลุ่มบุคคลเหล่านี้ก็ยังดำเนินการอยู่ โดยยึดเป็นอาชีพเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวตนเอง 
    

บุคคลที่ได้รับการประกาศยกย่อง และรับรางวัลครั้งนี้ คือ
    

1.นางสะปูเร้าะ จิใจ ราษฎรจากตำบลคลองใหม่ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ได้นำเงินมาเป็นทุนทำขนมหวานขายในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งในเวลานี้ก็ยังขายต่อเนื่องกันมา ได้รายได้ประมาณวันละ 400-600 บาท 
    

2.นายนาสิ วาเตะ ราษฎรเขตเทศบาลสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เดิมขายโรตี เมื่อมีโควิด-19 ต้องหยุดขาย จึงนำเงิน 5,000 บาทมาซื้อเครื่องสูบน้ำมือ 2 รับจ้างขุดบ่อน้ำตื้น ได้รายได้วันละ 800 บาท ตอนนี้คลี่คลายแล้วกลับไปขายโรตีได้บ้าง จึงทำอาชีพทั้งสองควบคู่ไปด้วยกัน สร้างรายได้เพิ่มขึ้นมาก 
    

3.นายอารีฟ มามะ ราษฎรตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส นำเงิน 5,000บาทเดือนแรกมาเริ่มขายกับข้าว ต่อมาได้รับเงินเพิ่มนำมาขยายผลกับทุนเดิม สามารถปรับรูปแบบเป็นขายออนไลน์ ส่งกับข้าวผักปลาถึงบ้านเรือนลูกค้า วันนี้กิจการไปได้ดี รายได้เฉลี่ยวันละ 1,000-1,200 บาท 

ที่มา สำนักงานประชาสัมพันธ์ จังหวัดปัตตานี