วันที่ 27 กรกฎาคม 2563 นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 รัฐบาลเห็นสมควรจัด กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563
เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ และเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย โดยพิธีและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติโดยภาพรวม มีดังนี้
ระหว่างวันที่ 1 - 31 กรกฎาคม 2563
รัฐบาลได้เชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเครื่องราชสักการะ และจัดที่สำหรับลงนามถวายพระพรชัยมงคล รวมทั้งตกแต่งสถานที่ประดับธงชาติคู่กับธงอักษรพระปรมาภิไธย ว.ป.ร. และประดับผ้าระบายสีเหลืองร่วมกับผ้าระบายสีขาวตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน ตลอดจนตกแต่งซุ้มและประดับไฟตามสถานที่และถนนสายหลัก จัดทำคำถวายพระพรชัยมงคลลงบนหน้าหลักของเว็บไซต์ของแต่ละหน่วยงาน และเชิญชวนประชาชนแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง ซึ่งเป็นสีประจำวันพระบรมราชสมภพ
วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม 2563 จัดให้มีกิจกรรมต่าง ๆ คือ
เวลา 07.00 น. พิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล โดยได้นิมนต์พระสงฆ์ ๖๙ รูป มารับบิณฑบาต ในส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ผู้ร่วมพิธีประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ คณะองคมนตรี ผู้บริหารหน่วยราชการในพระองค์ ผู้บัญชาการเหล่าทัพและตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พระราชกรณียกิจด้านศาสนา-การศึกษาของในหลวง ร.10
พระราชกรณียกิจ “ด้านการเกษตร” ของ "ในหลวง ร.10"
พระราชกรณียกิจ "ทางการแพทย์-สาธารณสุข" ของ ในหลวง ร.10
พระราชปณิธาน ในหลวง ร.10 “ด้านการกีฬา”
เวลา 08.00 น. พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน จัดขึ้นภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล ในส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ผู้ร่วมพิธีประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ผู้บัญชาการเหล่าทัพและตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ
นอกจากนี้ ขอเชิญชวนให้หน่วยงานของรัฐจัดพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ณ ที่ตั้งของหน่วยงาน ระหว่างวันที่ 20 - 28 กรกฎาคม 2563 รวมทั้งเชิญชวนร่วมลงนามถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ออนไลน์ทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. (www.ocsc.go.th) ระหว่างวันที่ 1 - 31 กรกฎาคม 2563 เพื่อให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ได้แสดงความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ปฏิบัติหน้าที่ตามรอยพระยุคลบาทในฐานะข้าของแผ่นดิน ให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประชาชนและประเทศชาติ
เวลา 18.00 น. พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม โดยในส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง สำหรับในปีนี้ไม่มีการจัดริ้วขบวน ในส่วนภูมิภาคทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม ในเวลาพร้อมกันกับในส่วนกลาง ส่วนในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีได้ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
เวลา 19.00 น. พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เป็นพิธีต่อเนื่องจากพิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม ในส่วนกลางจัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง โดยมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ผู้ร่วมพิธีประกอบด้วยคณะรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ผู้บัญชาการเหล่าทัพและตำรวจ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้แทนภาคีเครือข่ายภาคเอกชน ในส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม ในเวลาพร้อมกันกับในส่วนกลาง และในต่างประเทศสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีได้ตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
จากนั้น ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีจุดเทียนฯ สมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ ร่วมกับ บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จัดแสดงโดรน จำนวน 500 ลำ แปรอักษรเทิดพระเกียรติ จำนวน 2 ชุด รวม 10 แบบ ณ บริเวณสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งผู้ร่วมพิธีและประชาชนสามารถรับชมการแสดงโดรนดังกล่าวได้ทุกพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวงทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
วันพุธที่ 29 กรกฎาคม 2563
พิธีเชิญเครื่องราชสักการะและพานพุ่ม
เวลา 08.00 น. เป็นพิธีเชิญเครื่องราชสักการะและพานพุ่มจากท้องสนามหลวง โดยมีปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นหัวหน้าคณะเชิญเครื่องราชสักการะและพานพุ่มไปทูลเกล้าฯ ถวาย ณ พระที่นั่ง-อัมพรสถาน โดยไม่มีการจัดริ้วขบวน
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า การจัดกิจกรรมจิตอาสา “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน” สืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ทำให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ส่งผลให้ประชาชนประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการว่างงาน ทำให้ประชาชนไม่มีรายได้ หรือมีรายได้แต่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต หน่วยงานภาครัฐจึงได้ร่วมกับเอกชนจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน รวมทั้ง เพื่อให้เกิดความเข้มแข็งที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ ในแบบวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ภายใต้กิจกรรม “ชีวิตวิถีใหม่ใต้ร่มพระบารมี...เราสร้างไปด้วยกัน” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 - 31 กรกฎาคม 2563 โดยกิจกรรมแบ่งเป็น 7 ด้าน คือ
ด้านการจัดการภายในชุมชน ด้านการเกษตร ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านการฝึกอาชีพ/สาธิต ด้านสุขภาวะ/อนามัย และด้านอื่น ๆ เช่น การให้ความรู้ การจัดการภายในชุมชน การให้ความรู้ด้านวิชาชีพ การสาธิตการทำอาหาร การทำหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า การซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า การฝึกอาชีพต่าง ๆ การแปรรูปอาหาร การทำรถเข็นสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ การทำตู้อบอาหาร การแจกเมล็ดพันธุ์พืช การบริการตัดผม เป็นต้น
ในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้จัดจุดรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนขึ้น เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องต่าง ๆ สามารถไปแจ้งที่จุดรับเรื่องราวร้องทุกข์ของสำนักนายกรัฐมนตรีได้ ในโอกาสนี้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนไปร่วมในกิจกรรมจิตอาสาฯ ณ ท้องสนามหลวง ซึ่งประชาชนที่ไปร่วมกิจกรรมจะได้รับประโยชน์ในด้านต่าง ๆ โดยสามารถนำไปประกอบอาชีพ และสร้างรายได้เพื่อตนเอง ครอบครัว และชุมชน ตลอดจนประชาชนจะได้รับทราบแนวทางที่ถูกต้องในการดำรงชีวิตอยู่ได้ในแบบชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)
โดย ขสมก. จัดรถเมล์บริการฟรี เที่ยวแรก เวลา 08.00 – 19.00 น. จำนวน 3 เส้นทาง คือ จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – สนามหลวง จากวงเวียนใหญ่ – สนามหลวง และ จากหัวลำโพง – สนามหลวง และกรมเจ้าท่า จัดเรือข้ามฟากฟรี ตั้งแต่เวลา 09.00 – 19.00 น. ณ ท่าช้าง ท่าวัดอรุณ และท่าวัดระฆัง
นอกจากกิจกรรมดังกล่าว หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมจัดอาหารและเครื่องดื่มบริการประชาชนทุกวัน โดยกำหนดให้บริการ จำนวน 4 ช่วงเวลา คือ รอบที่ 1 เวลา 10.00 - 12.00 น. รอบที่ 2 เวลา 12.00 - 14.00 น. รอบที่ 3 เวลา 14.00 - 16.00 น. และรอบที่ 4 เวลา 16.00 - 18.00 น.
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า พิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาฯ จัดขึ้นในวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.30 น. ณ ท้องสนามหลวง โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งภายหลังพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาฯ นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยประธานรัฐสภา และประธานศาลฎีกา จะประกอบอาหารและแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ไปร่วมกิจกรรม ณ บริเวณเต็นท์ “ครัว ครม.” จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะเยี่ยมชมการจัดกิจกรรมจิตอาสาของหน่วยงานต่าง ๆ สำหรับในส่วนภูมิภาค ทุกจังหวัดได้จัดกิจกรรมจิตอาสาฯ ด้วยเช่นกัน
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในตอนท้ายว่า นอกจากการจัดพิธีและกิจกรรมจิตอาสาแล้ว รัฐบาลได้จัดทำสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2563 จำนวน 3 ตอน ๆ ละ 10 นาที คือ ตอนที่ 1 เรื่อง สืบสานงานแผ่นดิน ตอนที่ 2
เรื่อง ส่งเสริมการศึกษา ศาสนา สาธารณสุข และตอนที่ 3 เรื่อง เสริมสร้างความสุขปวงประชา จึงขอเชิญชวนประชาชนติดตามชมสารคดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งกำหนดเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ วันละ 1 ตอน ระหว่างวันที่ 26 - 28 กรกฎาคม 2563 ช่วงหลังข่าวในพระราชสำนัก
ที่มา : สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี