thansettakij
กรมประมงร่วมชุมชน-ซีพีเอฟ ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ  

กรมประมงร่วมชุมชน-ซีพีเอฟ ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ  

21 ส.ค. 2563 | 07:33 น.

กรมประมง จับมือชุมชนลุ่มน้ำป่าสักและซีพีเอฟ ปล่อยปลาลงเขื่อนป่าสักฯ ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ  

กรมประมง  ร่วมกับชุมชนในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก   และ บริษัท  เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ  สานต่อความร่วมมือฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ เติมความสมบูรณ์ของแหล่งอาหารชุมชน และส่งเสริมให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมทั้งนำองค์ความรู้อนุบาลปลาก่อนปล่อยลงเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ช่วยเพิ่มอัตราการรอดของปลาที่ปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ            
                 
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นความต่อเนื่องในการแก้ปัญหาปริมาณปลาในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่ลดลง และสร้างระบบนิเวศที่สมดุล  ซึ่งในช่วง  4 ปีมานี้ ( ปี  2559-2562) ทั้ง 3  ภาคส่วนได้ร่วมกันปล่อยปลาสู่แหล่งน้ำ จำนวน  2.6  ล้านตัว และในปี 2563-2566 ร่วมกันดำเนินโครงการยุทธศาสตร์สร้างสุข ชุมชนพื้นที่เขาพระยาเดินธง  ปล่อยปลาลงเขื่อน มีเป้าหมายเพิ่มจำนวนปลาที่จับได้ในแหล่งน้ำ  เพิ่มรายได้ให้กับชุมชน สร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ดูงานด้านการอนุบาลปลา ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนที่ซีพีเอฟต่อยอดจากโครงการซีพีเอฟรักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธงอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า  5,971 ไร่         
โดยในวันนี้  (21 สิงหาคม 2563)  นายถาวร จิระโภสณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำออกจากกระชังอนุบาลลงสู่แหล่งน้ำ และปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่กระชังอนุบาลเพื่ออนุบาลต่อ  โดยมี  นายจุมพล สงวนสิน อดีตอธิบดีกรมประมง ในฐานะที่ปรึกษากรมประมง นายจรูญศักดิ์ เพชรศรี ผู้อำนวยการกองตรวจการประมง นายเขมชาติ จิวประสาท หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมประมง  ว่าที่ร้อยตรี ทรงพล แป้นแก้ว นายอำเภอพัฒนานิคม  ชุมชนในเขตพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก  ผู้บริหารสายธุรกิจเป็ดเนื้อของซีพีเอฟและพนักงาน ร่วมกิจกรรม  ณ อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี

   กรมประมงร่วมชุมชน-ซีพีเอฟ ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ  
รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กรมประมงมีนโยบายสร้างผลผลิตเพิ่มในแหล่งน้ำธรรมชาติ เหมือนธนาคารผลิตสัตว์น้ำ ที่ไหนมีน้ำ ที่นั่นมีปลา และสร้างความยั่งยืนด้านแหล่งอาหารของชุมชน  ซึ่งความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นได้อย่างยั่งยืน ต้องได้รับความร่วมมือจากคนในพื้นที่ ขณะเดียวกัน ความช่วยเหลือจากภาคเอกชน
ที่ให้ความร่วมมือในการดำเนินโครงการต่างๆ  ถือว่าทุกภาคส่วนมีการบูรณาการกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อพื้นที่ ชุมชน และประชาชนต่อไป 
  กรมประมงร่วมชุมชน-ซีพีเอฟ ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ  
นายธณพล สกุลวิวรรธน์  รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายธุรกิจเป็ดเนื้อ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัท ฯ เป็นผู้ผลิตอาหารที่ดำเนินธุรกิจควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม และใส่ใจสิ่งแวดล้อม  การดำเนินโครงการยุทธศาสตร์สร้างสุข ปล่อยปลาลงเขื่อน  เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่บริษัทฯ ร่วมมือกับกรมประมง และชุมชนพื้นที่เขตลุ่มน้ำป่าสัก ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง  เพื่อเพิ่มปริมาณปลาในแหล่งน้ำ สร้างความมั่งคงทางอาหารของชุมชน และเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนเชื่อมโยงกับโครงการด้านสิ่งแวดล้อมของซีพีเอฟในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก  ภายใต้โครงการซีพีเอฟรักษ์นิเวศ  ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง ที่ร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ 5,971 ไร่ 

นายกีรติศักดิ์   สุวรรณธนะกรณ์   ผู้ใหญ่บ้าน หมู่  7 โคกสลุง ในฐานะประธานโครงการอนุบาลปลา กล่าวว่า   ในอดีตมีการปล่อยปลาลงเขื่อนเป็นจำนวนมาก แต่พบปัญหาลูกปลามีอัตราการรอดต่ำ   ส่งผลต่อปริมาณปลาที่จับได้ที่หน้าท่าลดลงทุกปี  กระทบชุมชนโดยรอบเขื่อนที่มีรายได้จากการประกอบอาชีพจับปลา   ชุมชนในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก  กรมประมง และซีพีเอฟ  นำแนวทางอนุบาลปลาเพิ่มอัตราการรอดของปลาที่ปล่อยสู่แหล่งน้ำ  ทำให้มีปริมาณปลาเพิ่มขึ้น  เกษตรกรและชุมชนโดยรอบเขื่อน  มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการประกอบอาชีพจับปลา และการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น  ปลาส้ม  ปลาย่าง และ ปลาร้า   เป็นต้น   ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน             
               กรมประมงร่วมชุมชน-ซีพีเอฟ ฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ  
ทั้งนี้  ปี 2559-2563 ซีพีเอฟดำเนินโครงการซีพีเอฟรักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง  โดยร่วมมือกับกรมป่าไม้  ชุมชนรอบเขาพระยาเดินธง  อนุรักษ์และฟื้นฟูป่า 5,971 ไร่  ขยายสู่โครงการยุทธศาสตร์สร้างสุข ปลูกผักปลอดสาร   และโครงการยุทธศาสตร์สร้างสุข   ปล่อยปลาลงเขื่อน  ร่วมสร้างความมั่นคงทางอาหารของชุมชนอย่างยั่งยืน ./