จากกรณีที่สำนักข่าว CBS เกาหลีใต้ ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับแรงงานไทยเกี่ยวข้องกับการเสพและจำหน่ายยาเสพติดในเกาหลีใต้
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซลเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว และได้สั่งการด่วนถึงทูตแรงงานเพื่อเข้าตรวจสอบดูแลแรงงานไทยทันที ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มแรงงานหลบหนี ที่ไม่มีวีซ่าทำงาน
ขณะที่ แรงงานถูกกฎหมายอย่างEPS ไม่ค่อยปรากฎว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เนื่องจากให้ความสำคัญกับการทำงาน ส่งเงินกลับบ้านให้ครอบครัวมากกว่า รวมทั้งกลัวการถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเกาหลีใต้ ซึ่งมีโทษแรง
ทั้งนี้กรณีเสพยาหรือมียาในครอบครอง จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือเสียค่าปรับไม่เกิน 50 ล้านวอน กรณีค้ายาเสพติด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือเสียค่าปรับไม่เกิน 50 ล้านวอน กรณีส่งออกต่างประเทศหรือผลิตยาเสพติด มีโทษจำคุก 5 ปีขึ้นไป หรือจำคุกตลอดชีวิต
“ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเร่งแก้ไขปัญหาแรงงานไทยลักลอบเดินทางไปทำงานในสาธารณรัฐเกาหลีอย่างเข้มงวดและจริงจัง มาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการใช้มาตรการทางกฎหมาย ซึ่งกระทรวงแรงงาน จะเร่งวางมาตรการในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่เกาหลีใต้ให้รัดกุม มากขึ้น โดยจะตรวจสารเสพติดของแรงงาน EPS ก่อนอนุญาตให้เดินทางไปทำงาน เพื่อป้องกันความต้องการใช้ยาเสพติดต่อเนื่อง ซึ่งหากถูกส่งกลับประเทศไทยจากสาเหตุเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อาจงดการอนุญาตให้ไปทำงานต่างประเทศถาวร”
นายสุชาติฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการไปทำงานที่เกาหลีใต้ ต้องผ่านขั้นตอนการคัดเลือกหลายครั้ง รวมทั้งต้องฝึกฝนภาษาเกาหลีและทักษะการทำงาน ดังนั้นขอชื่นชมในความอดทนของแรงงานไทย แต่เมื่อไปทำงานแล้ว ขอให้รับผิดชอบงานให้ดีที่สุด ปฏิบัติตามกฎหมายและวัฒนธรรมของเกาหลี ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด สิ่งของมึนเมา และการพนัน
ตลอดจนเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานนำกลับมาใช้ในประเทศไทย โดยเฉพาะการฝึกฝนด้านภาษา เพราะจะสามารถหางานทำได้ง่าย และขอให้รักษาชื่อเสียงของประเทศไทย เนื่องจากจะส่งผลต่อจำนวนแรงงานไทยที่จะได้เดินทางไปทำงานในรุ่นต่อๆไปด้วย