นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เปิดเผยว่า กระทรวงดีอีเอส ได้เชิญ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย (ไอเอสพี) ได้ เพื่อหารือเรื่อง การระงับการเข้าถึงเว็บไซต์พนันออนไลน์ ในวันที่ 9 กันยายนนี้ โดยปัญหาการพนันออนไลน์มีผลกระทบมากมาย ทั้งต่อเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงสร้างความเดือดร้อนแก่คนในครอบครัว
อย่างไรก็ตามการปิดเว็บไซต์ หรือเซิร์ฟเวอร์ไม่สามารถทำได้ทันทีต้องอาศัยอำนาจของทางสำนักงานตำรวจและกระทรวงมหาดไทย และด้วยต้นทางของเซิร์ฟเวอร์ไม่ได้ตั้งอยู่ในประเทศ เมื่อเว็บหรือยูอาร์แอลที่เป็นพนันออนไลน์ถูกปิดก็จะเปลี่ยนไปเปิดในชื่อใหม่ อย่างไรก็ตามกระทรวงดีอีเอสก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามดำเนินการทางกฎหมายอยู่ตลอด
โดยที่ผ่านมาภายใต้การอำนวยการของรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ร่วมกับผู้บัญชา การตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ทำการสืบสวนจนนำไปสู่การจับกุมกว่า 20 รายใหญ่ทั่วประเทศ วงเงินหมุนเวียนกว่า 1,000 ล้านบาท ตามกฎหมาย พ.ร.บ.การพนัน
ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนท่านใดพบเห็นสื่อโฆษณาหรือโพสต์ชักชวนให้เล่นการพนันออนไลน์สามารถแคปหน้าจอ พร้อมแจ้ง link หรือ URLs เว็บนั้น ๆ ส่งมาโดยตรงที่เพจ “อาสา จับตา ออนไลน์” ทาง inbox คลิก m.me/DESMonitor จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมขอประชาชนร่วมมือร่วมใจปราบการพนันออนไลน์ เพื่อไม่ให้กระทบต่อลูกหลาน หรือคนในครอบครัว
ด้านพ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รองผบก.ปอท.) โฆษก บก.ปอท. กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าแนวทางการดำเนินการของปอท. เกี่ยวกับการแก้ปัญหาพนันออนไลน์ นั้นดำเนินการ 3 มิติ มิติแรก คือ การจับกุมผู้ให้บริการพนันผิดกฎหมาย มิติที่ 2 คือ เสนอไปยังกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม (ดีอีเอส) เพื่อปิด ตามพรบ.คอมพิวเตอร์มาตรา 20 และมิติที่ 3 คือ การเข้าไปให้ความรู้เกี่ยวกับเว็บไซต์ไม่เหมาะสม เว็บการพนันในสถานศึกษา
“ยอมรับว่าการดำเนินการป้องกันและปราบปรามดำเนินการยาก เพราะเว็บไซต์ และโซเซียล เหล่านี้เข้าถึงง่าย และเข้าถึงทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีโมบายแบงกิ้ง ทำให้สะดวกในการโอนรับจ่ายเงินได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น ขณะที่ผู้ให้บริการเว็บไซต์พนันออนไลน์ นั้นส่วนใหญ่จะจดทะเบียนเว็บ และตั้งเซิร์ฟเวอร์ให้บริการในประเทศเพื่อนบ้าน ที่ไม่มีกฎหมายรองรับ แม้ว่าจะปิดกั้น URL ไปแล้วก็จดทะเบียนเว็บใหม่”
ทั้งนี้ประชาชนอย่าหลงเชื่อหรือเชิญชวนจากผู้ให้บริการ ไม่เอาตัวเข้าไปมีส่วนร่วมกระทำการผิดกฎหมาย โดยเว็บไซต์พนันผิดกฎหมายส่วนใหญ่จะชักจูงใจ โดยให้เครดิตเชิญชวนเข้าไปเล่นทดลองก่อน เมื่อสมัครเป็นสมาชิก ก็ให้เข้าใส่ข้อมูลส่วนบุคคล เลขบัตรประชาชน บัตรเครดิต เบอร์โทรศัพท์ ซึ่งเราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเอาข้อมูลไปกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้อาจถูกเว็บพนันเหล่านั้นหลอกลวงได้ หลอกให้ท่านโอนเงินเพื่อเข้าเล่น แต่เมื่อเล่นไปสักพัก ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง และต้องการถอนคืน แต่เว็บพนันนั้นเบี้ยวไม่โอนคืนให้
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวต่อไปอีกว่าที่ผ่านมา ปอท. มีการดำเนินการติดตาม จับกุม และปิดเว็บไซต์ให้บริการพนันออนไลน์ต่อเนื่อง เฉลี่ยปีละประมาณ 1,000-1,500 เว็บไซต์
ด้านนางมรกต กุลธรรมโยธิน กรรมการผู้จัดการ บริษัทอินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด มหาชน ในฐานะนายกสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย กล่าวว่าที่ผ่านมากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม (ดีอีเอส) , กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต มีคณะทำงานร่วมกันเพื่อปิดกั้นเว็บที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว และมีกระบวนการดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ตามคำสั่งศาล ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการปิดกั้นไปเป็นจำนวนมาก
“ถามว่าเราสามารถกรองเนื้อหาเว็บไซต์ไม่เหมาะสม ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เว็บพนันออนไลน์ ลามกอนาจาร ตั้งแต่ประตูทางเข้า (Gateway) ได้หรือไม่ ในทางเทคนิคสามารถทำได้ แต่ก็จะมีคนออกมาต่อต้านเรื่องซิงเกิล เกตเวย์”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แนะแก้ พ.ร.บ.การพนัน รับยุคดิจิทัลคอยล์
พนันออนไลน์ - ออฟไลน์ ระบาดหนัก เตรียมชงรัฐ จัดตั้ง"ศูนย์ปราบปรามการพนันผิดกฎหมาย"