จากกรณีที่กระทรวงการคลังได้นำมาตรการกระตุ้นการบริโภค นำเสนอ 2 โครงการ อันได้แก่ โครงการคนละครึ่ง และ โครงการเพิ่มวงเงินในบัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้คณะรัฐมนตรี หรือ ครม.พิจารณา
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศและเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้มีรายได้น้อยและประชาชนทั่วไปรวม 24 ล้านคน วงเงิน 51,000 ล้านบาท ทั้งมาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือ บัตรคนจนหรือบัตรสวัดิการแห่งรัฐ และ โครงการคนละครึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บัตรคนจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเติมเงิน 500 รายละเอียดโอนเงินวันไหนเช็กที่นี่
บัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 ต.ค.รับเงินเพิ่ม 500
สรุปเพิ่มเงินบัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 500 บาท เริ่มโอนวันแรกเมื่อไหร่
ส่องวิธีสมัครบัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรับส่วนลดค่าไฟฟ้า 230 บาท เช็กที่นี่
สำหรับโครงการรักษาระดับการบริโภคผ่านการพิจารณาจากศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) มาแล้ว แบ่งเป็น 2 โครงการ ได้แก่
1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยการเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น อีก 500 บาท ต่อคนต่อเดือน จากปกติที่ได้รับเดือนละ 200-300 บาทต่อเดือน จะเพิ่มเป็น 700-800 บาทต่อเดือน โดยเพิ่มเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2563 มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้มีรายได้ น้อยที่มี บัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 14 ล้านคน รวมใช้วงเงินรวม 2.1 หมื่นล้านบาท
2.โครงการคนละครึ่ง ซึ่งภาครัฐให้สิทธิประโยชน์ด้วยวิธีการร่วมจ่าย (Co-pay) 50% สูงสุดไม่เกิน 100 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ตลอดโครงการ (23 ต.ค.-31 ธ.ค.) รวม 3,000 ล้านบาท เพื่อให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยในสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป (ไม่รวมล็อตเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบและการบริการ)
ขณะที่โครงการเพิ่มวงเงินซื้อของกินของใช้ให้ผู้ถือ บัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ วงเงิน 21,000 ล้านบาท จำนวน 14 ล้านคน คนละ 1,500 บาท โดยเพิ่มคนละ 500 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือนโดยเริ่มโอนเงินเข้าบัตรชีให้กับผู้ถือบัตรคนจนหรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยจะโอนเงินเพิ่มงวดแรกในวันที่ 1 ตุลาคม 2563,งวดที่ 2 วันที่ 1 พฤศจิกายน และ งวด 31 ธันวามคม
กลุ่มที่1
กลุ่มที่2