วันที่ 11 ตุลาคม 2563 นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี รักษาการแทนผู้ว่าจังหวัดเพชรบุรี ผู้อำนวยการจังหวัด ได้ออกหนังสือด่วน ถึงศึกษาธิการจังหวัดเพชรบุรี โดยประกาศให้หยุดการเรียนการสอน ในวันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม 2563 พร้อมทั้งให้เตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันน้ำเอ่อท่วมสถานศึกษา และขอให้ติดตามสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด
การประกาศหยุดเรียนในครั้งนี้ เป็นผลมาจากจังหวัดเพชรบุรีได้รับการรายงานสถานการณ์และข้อมูลการบริหารจัดการน้ำ ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2563 จากโครงการชลประทานเพชรบุรีว่ามีปริมาณน้ำไหลเข้ามาสู่เขื่อนเพชร ซึ่งทางเขื่อนได้ทำการระบายน้ำออกทางคลองส่งน้ำสายใหญ่ 4 สาย และเกิดผลกระทบทำให้น้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเพชรบุรี และในพื้นที่ตัวเมืองเพชรบุรี ที่มีการก่อสร้างสะพานทางรถไฟ ที่ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรีในเขตเมืองสูงกว่าปกติและเอ่อล้นเข้าท่วมเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรี
จากสถานการณ์ดังกล่าวจึงทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาและสั่งปิดสถานศึกษาในเขตอำเภอเมืองเพชรบุรี 1 วัน
ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 17.00 น .นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมชลประทาน ได้ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี และเปิดเผยว่า สถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ตลอดสองวันที่ผ่านมา ส่งผลปริมาณน้ำสูงสุดที่บริเวณ หน้าเขื่อนเพชร ซึ่งทางชลประทานได้มีการผันน้ำเข้าช่องทางต่างๆ เพื่อการระบายน้ำ
และจากความกังวลของประชาชนหากมวลน้ำที่ระบายมาสู่แม่น้ำเพชรบุรี ในปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้น ผ่านตรงจุดบริเวณสะพานดำที่ถือว่าเป็นจุดวิกฤต จุดเสี่ยงเนื่องจากมีงานก่อสร้างรางรถไฟทางคู่ ขวางทางน้ำ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการไหลของน้ำ ซึ่งหลายภาคส่วนได้อำนวยความสะดวก ที่จะช่วยเร่งในการระบายน้ำ
โดยขณะนี้ได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ในพื้นที่ ต.บางตะบูน เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลโดยเร็ว พร้อมเฝ้าระวังดูสภาวะน้ำว่ามีการไหลของน้ำหรือการยกตัวขึ้นอย่างไร
นอกจากนั้นแล้วทางกรมชลประทานได้ส่งเครื่องจักรเครื่องมือและรถแบ็คโฮเพื่อปฏิบัติงานร่วมกับทางจังหวัดที่กำลังเก็บวัชพืช ผักตบชวา กิ่งไม้ สิ่งกีดขวางทางน้ำอยู่ตลอดเวลา ที่จะเร่งการระบายได้ดี และยังได้นำเครื่องสูบน้ำ เพื่อรอให้ความช่วยเหลือบริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
นายสัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในพื้นที่ต้นน้ำไม่ว่าจะเป็นเขื่อนแม่ประจันหรือเขื่อนทางแก่งกระจาน วันนี้ไม่มีน้ำและน้ำลงต่ำกว่าตลิ่งหมดแล้วน้ำที่จะมีผลกระทบคือมวลน้ำก้อนนี้ก้อนเดียวจะมีน้ำไหลผ่านบริเวณสะพานดำ อยู่ในเกณฑ์ 100 ลูกบาศก์เมตร/ วินาที หรือระดับประมาณ 4.15 เมตร ยังคงเหลือ พื้นที่ประมาณ 1.20 เมตร ถือว่ายังรับมือกับมวลน้ำได้อยู่พอสมควร