หอการค้าเชียงใหม่รุกลงนาม MOU ออนไลน์ จับมือองค์กรภาคเอกชน CCPIT เกาะไห่หนาน ผนึกพันธมิตรเชื่อมเศรษฐกิจผ่านกลไกเขตการค้าเสรีและท่าเรือพิเศษ
หอการค้าเชียงใหม่รุกลงนาม MOU ออนไลน์กับภาคเอกชนและองค์กรส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มณฑลไห่หนาน (CCPIT) เพื่อสานต่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า การท่องเที่ยวระหว่างกัน โดยไห่หนานพร้อมเสนอสิทธิพิเศษตามกรอบเขตการค้าเสรีและท่าเรือพิเศษ ดึงนักธุรกิจร่วมลงทุนด้วยสิทธิทางภาษี และให้สิทธิพิเศษการออกงานแสดงสินค้าในอนาคต ด้านการเกษตร การท่องเที่ยวเชิงกีฬา-กอล์ฟ และการท่องเที่ยวทางทะเล ก่อนขยายผลให้เกิดกลไกบ้านพี่เมืองน้องในอนาคต
นายวโรดม ปิฎกานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมาหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงนามข้อตกลงกับ Mr.Chen Hongliang รองประธานหอการค้า และ China Council for the Promotion of International Trade; Hainan Sub-council (CCPIT) เพื่อจะสานต่อความร่วมมือที่ได้พบปะกันก่อนหน้าสถานการณ์ COVID-19
ความร่วมมือนี้จะเปิดโอกาสให้สมาชิกผู้ประกอบการของเชียงใหม่และภาคเหนือ สามารถเปิดตลาดเชื่อมโยงกับทางไห่หนานได้ ทั้งสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป การท่องเที่ยว รวมถึงการลงทุนขนาดใหญ่ ที่จะได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีที่มากกว่าพื้นที่อื่นของจีน ภายใต้นโยบายเขตการค้าเสรีและท่าเรือพิเศษ (Free Trade zone : FTZ และ Free Trade Port : FTP) และหลังจากนี้หอการค้าฯ จะได้นำเสนอการลงนามการเป็นบ้านพี่เมืองน้อง (Sister City)ระหว่างกันต่อไป
นอกจากนั้นจะได้มีความร่วมมือการออกงานแสดงสินค้าในอนาคตที่ไห่หนาน ที่สำคัญได้แก่ งาน International Agricultural Trade Affair, China (Hainan) International Golf Tourism Cultural Expo, China (Hainan) International Marine Industry Expo and China International Creative Design Week เป็นต้น ที่จะอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งสินค้า สิทธิด้านภาษี เป็นต้น เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงการค้าระหว่างเกาะไห่หนาน และจังหวัดเชียงใหม่
มณฑลไห่หนาน ถือเป็นเกาะใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของจีน มีพื้นที่ 35,354 ตร.กม. มีประชากร 9.5 ล้านคน รองจากเกาะไต้หวัน ใหญ่กว่าฮ่องกง 35 เท่า มีพื้นที่ 1,106 ตร.กม. ได้รับฉายา “ฮาวายของจีน” เป็นแหล่งเพาะปลูกพืชเมืองร้อนที่สำคัญ ล่าสุดทดลองปลูกทุเรียนได้เป็นผลสำเร็จ
เกาะไห่หนาน มี 4 เมืองใหญ่ที่สำคัญ ได้แก่ “ไหโข่ว” เมืองหลวง ซึ่งทางการจีนตั้งเป้าผลักดันให้เป็นศูนย์กลางทางด้านการเงิน และแหล่งชอปปิงสินค้าปลอดภาษี “เมืองโป๋อ๋าว” ทิศตะวันออก พัฒนาให้เป็นเมืองแห่งการประชุมและศูนย์กลางด้านการเทคโนโลยีทางการแพทย์ “เมืองซานย่า” ทางภาคใต้ เป็นศูนย์กลางทางการค้า และเศรษฐกิจมาตรฐานระดับโลก โดดเด่นด้วยความเป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่สวยงาม มีโรงแรมหรูระดับโลก และสถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตา ดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่วนทางภาคตะวันตก มี “ท่าเรือหยางผู่” เป็นเมืองท่าเรือน้ำลึก ศูนย์ท่าเรือนำเข้าส่งออกนานาชาติ รองรับการนำสินค้าเข้ามาเก็บในคลัง หรือตั้งโรงงานแปรรูปและส่งออก
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ หน้า 17 ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,624 วันที่ 5-7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
หอฯเชียงใหม่ดัน10 แผนประคองเศรษฐกิจยาวถึงปีหน้า
เสียงถึงทีมเศรษฐกิจใหม่ หอฯเชียงใหม่จี้"สานต่อ"ทันที
หอฯเชียงใหม่ยื่น8แผนงาน ขอแจมงบเงินกู้4แสนล้าน