นายอินเยส คอร์ทเฮ้าส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ จำกัด กล่าวว่า จากวิกฤติโควิด -19 ส่งผลให้ธุรกิจทั้งหลายต้องพัฒนาและปรับตัวอย่างเร่งด่วน ไทยน้ำทิพย์ ได้หันมาให้ความสำคัญกับการบริโภค ‘ที่บ้าน’ เพิ่มมากขึ้นทั้งการสื่อสารและกิจกรรมทางการตลาดทั้งหมด โดยปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลักด้านผลิตภัณฑ์ การให้ความช่วยเหลือคู่ค้าและพันธมิตร ตลอดจนการสร้างความพร้อมให้กับพนักงาน
การปรับตัวรองรับพฤติกรรมการบริโภคที่ย้าน ไทยน้ำทิพย์ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ไซส์ใหญ่ขึ้น เช่น เครื่องดื่มขนาด 1.5 ลิตร ที่เหมาะสำหรับการบริโภคในครัวเรือน โดยบริษัทฯ ได้เติมเต็มทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอ และการส่งเสริมการขาย ครอบคลุมทั้งในการสื่อสาร และการดำเนินการ เพื่อกระตุ้นการบริโภค ‘ที่บ้าน’ เพิ่มเติมจากการบริโภคในร้านอาหารนอกบ้าน และยังเป็นการชดเชยสัดส่วนการบริโภคของนักท่องเที่ยวที่หายไป
นอกจากนี้ ยังทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและเทคนิคการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขาย บรรจุภัณฑ์พร้อมดื่มขนาดใหญ่ ทั้งในรูปแบบขวด PET และกระป๋องอะลูมิเนียม โดยเฉพาะร้านอาหารให้บริการด่วน รวมไปถึงร้านค้าปลีกครบวงจรขนาดใหญ่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าส่ง ร้านค้าเงินสดและบริการตนเอง ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม ร้านอาหาร และร้านค้าทางอ้อม ซึ่งซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีกไปจำหน่าย
หลังการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ในเดือนพฤษภาคม ไทยน้ำทิพย์ได้ริเริ่มโครงการ “ความสุข” มอบน้ำดื่มน้ำทิพย์ และโค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล กว่า 7 ล้านขวดและกระป๋อง รวมมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท ให้แก่ร้านอาหารทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ที่เป็นคู่ค้าร่วม 190,000 แห่งฟรี เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคู่ค้าฟื้นตัวและสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็วอีกครั้ง รวมทั้ง ยังพัฒนาผลิตภัณฑ์สูตร “โค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล กลิ่นออร์เรนจ์” เพื่อสร้างสีสันและกระตุ้นตลาด ตอบรับกับเทรนด์สุขภาพที่ยังคงมาแรงต่อเนื่อง
ส่วนการดูแลพนักงาน 7,500 คน บริษัทให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ และมีนโยบายไม่ลดเงินเดือน และไม่เลิกจ้างพนักงานทุกระดับ แต่ให้โอกาสในการสับเปลี่ยนหน้าที่อย่างเหมาะสมในช่วงล็อคดาวน์แทน
“เราจะยังคงเดินหน้ากลยุทธ์ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ พันธมิตร และพนักงานไปตลอดทั้งปี เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ พนักงานของเรา รวมทั้งอุตสาหกรรมโดยรวมจะสามารถเติบโตไปได้พร้อมกันอย่างมั่นคง ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในประเทศไทย เราจะทำงานอย่างหนักทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ เพื่อร่วมสร้างประโยชน์ให้กับสังคม” นาย อินเยสกล่าว
ผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอของโคคา-โคล่า ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ในเซกเมนต์เครื่องดื่มอัดลม สำหรับปีนี้มีส่วนแบ่งการตลาด 55.2% เพิ่มขึ้น 0.6% จากปีที่แล้ว โดยสำหรับตลาดน้ำดำ ไทยน้ำทิพย์สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่มขึ้น 0.6 % มาอยู่ที่ 48.2%
นอกจากนี้ ตลาดเครื่องดื่มไม่มีน้ำตาลก็ขยายตัวถึง 15.8% โดยโค้ก สูตรไม่มีน้ำตาล เป็นผู้นำในตลาด ด้วยส่วนแบ่ง58.5% เพิ่มขึ้น 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา