อิตัลไทย ปรับยุทธศาสตร์ HR มุ่ง Talent Development เพิ่มศักยภาพบุคลากร
การบริหารงานองค์กรขนาดใหญ่ อย่างกลุ่มบริษัทอิตัลไทย ซึ่งมีถึง 5 กลุ่มธุรกิจหลัก กลุ่มอิตัลไทยได้ปรับยุทธศาสตร์ HR มุ่งเน้น Talent Development เพื่อเพิ่มศักยภาพพนักงานและองค์กรให้ทันกับโลกยุคที่มีเทคโนโลยีเข้ามาดิสรัป และยังเจอการเปลี่ยนแปลงแบบนิวนอร์มอล เมื่อโควิด-19 มาเยือน ทำให้ทักษะความรู้แบบเดิมไม่เพียงพอต่อการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า
“สรัญญา วัฒนศิริสุข” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส ฝ่ายทรัพยากรบุคคล กลุ่มบริษัทอิตัลไทย บอกว่า อิตัลไทยไม่ได้รอโจทย์ว่ามีปัญหา แต่ได้ปรับเปลี่ยนทรานสฟอร์มองค์กรมาตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว เพราะความแตกต่างในธุรกิจ 5 บียูใหญ่ ที่แบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง คือ เฮฟวี่อีควิปเมนท์ เป็นงานระบบ งานเอ็นจิเนียริง และอีกฝั่งเป็นไลฟ์สไตล์และโรงแรม นั่นคือโจทย์สำคัญ เพราะด้วยธรรมชาติของคนทำงานทั้ง 2 ประเภทจะแตกต่างกัน รวมถึงวัฒนธรรมองค์กร ก็แตกต่างกันด้วย แต่ในฐานะอิตัลไทยทั้งกรุ๊ป เอชอาร์จึงต้องพาคนทั้งหมดให้มาอยู่บนเพลทเดียวกัน และวิ่งไปพร้อมๆ กันให้ได้
เรื่องของเทคนิคัลสกิล เป็นเรื่องที่แต่ละองค์กรมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้วทั้งฝั่งเอ็นจิเนียร์ และฝั่งโรงแรม เอชอาร์ทำหน้าที่เพียงเปิดให้แต่ละบริษัท รวมถึงพนักงานแต่ละคนสามารถ ทำ Development Plan ที่ตอบโจทย์ของตนเองมาเสนอ เพื่อนำไปหาโปรแกรม หรือ องค์ความรู้ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน ภายใต้หลักสำคัญ 2 เรื่อง คือ พนักงานทุกคนต้องรู้ว่า Career Path ของตัวเอง รู้ว่าต้องพัฒนา หรือ เติบโตต่อไปอย่างไร และโปรแกรมการเรียนรู้ที่เอชอาร์นำมาเสนอตามแผนของแต่ละคน ต้องผสานเข้ากับวิสัยทัศน์องค์กร
อีกส่วนสำคัญที่เอชอาร์เข้ามามีบทบาทมาก คือ การหลอมรวมซอฟท์สกิลให้เป็นหนึ่งเดียว โดยเริ่มโฟกัส ที่ Leadership Skill เพราะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรของอิตัลไทย และเพื่อให้การพัฒนาตอบโจทย์ความต้องการของพนักงานแต่ละ Level ชัดเจน จึงแบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มผู้บริหารระดับสูง ได้จัดกิจกรรม Executive Retreat ที่ให้ผู้บริหารทุกบริษัทในกลุ่มแลกเปลี่ยนประสบการณ์ วิธีคิด หามุมมองต่อยอดธุรกิจ มีรูปแบบทั้งเป็นการเปิดรับจากภายนอก หรือ แลกเปลี่ยนภายในกลุ่ม 2.กลุ่มผู้บริหารระดับกลาง เน้นเรียนรู้เกี่ยวกับ Business Development และการ Coaching และ 3.กลุ่มพนักงานที่เป็น High Performer ของแต่ละธุรกิจ ที่จะนำมาต่อยอดองค์ความรู้ที่จำเป็นสำหรับเติบโตต่อไป
หัวใจสำคัญในการพัฒนา Talent 2 กลุ่มหลังนี้ คือ Leadership Development Program ที่จะเปิดโอกาสให้คนต่างสายงาน ต่างเจเนอเรชั่นแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ วิธีคิดที่ช่วยสร้างความเข้าใจระหว่างกันมากขึ้น เกิดทีมเวิร์คที่แข็งแรง รวมถึงเปิดเวทีให้กับ Young talent แสดงความสามารถ โดยที่ผ่านมาไอเดียจากกลุ่มนี้ สามารถนำไปต่อยอดเป็นสินค้า หรือ โซลูชั่นใหม่ๆ ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน อาทิ การเปิดไลน์โปรดักส์ประเภทกาแฟ หรือ ออกแบบระบบสื่อสารภายในองค์กร เพื่อปิดช่องว่างระหว่างเจเนอเรชั่น
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,630 วันที่ 26 - 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563