วันนี้ (26 พ.ย.63) เวลา 09.30 น. ณ ห้องเเกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพคฟอรั่ม ฟอรัม ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนา Gov Cloud 2020 : “The Future of Digital Government” พร้อมปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “Government Cloud : Digital Foundation for Government Transformation” โดยมีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้บริหารเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของทุกกระทรวง รัฐวิสาหกิจ สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ภาคเอกชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่านายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ Smart Government อย่างแท้จริง โดยภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชนจะมีบทบาทและเป็นกำลังสำคัญต่อการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาประเทศไปสู่ Thailand 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้ รัฐบาลริเริ่มให้มีการปรับตัวเพื่อที่จะเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยพัฒนา Digital Services เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากขึ้น ด้วยการพัฒนาระบบราชการผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการอำนวยความสะดวก เชื่อมโยงภาครัฐ ภาคธุรกิจและภาคประชาชนผ่านคลาวด์กลาง ให้เป็นรากฐานของจัดเก็บข้อมูลที่เป็นระบบเกิดการบริการสาธารณะที่ก้าวล้ำช่วยให้ภาครัฐสามารถสร้างการบริการใหม่ได้อย่างรวดเร็ว ลดภาระการลงทุนจัดซื้อและบำรุงรักษาอุปกรณ์ระบบเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เช่น กระดาษ เป็นต้น
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังเผยว่านายกรัฐมนตรีคาดหวังว่าปี 2565 - 2566 แพลตฟอร์มจะเชื่อมโยงภาครัฐและประชาชนให้มีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น ลดปัญหาการบริการซ้ำซ้อน เกิดการบริการที่ real-time และรองรับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูล การทำปัญญาประดิษฐ์ ทั้งนี้ การไปสู่ Government as a Platform ที่สมบูรณ์ คือ การมีชุดข้อมูลที่ดีเพื่อเพิ่มศักยภาพธรรมาภิบาลข้อมูลภาครัฐในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านบริการประชาชน การเงิน สาธารณสุข พลังงาน การท่องเที่ยว การสื่อสารและขนส่งและโลจิสติกส์ หน่วยงานสามารถวิเคราะห์ข้อมูล บูรณาการการบริการภาครัฐ รวมทั้งแบ่งปันข้อมูลให้ประชาชนหรือภาครัฐด้วยกันได้ใช้บริการ เป็นพื้นฐานต่อยอดสู่ Government as a Platform อย่างเต็มรูปแบบและเป็นรูปธรรมในอนาคต ขณะเดียวกันต้องเดินหน้าการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคประชาชน ควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อให้การก้าวเข้าสู่รัฐบาลดิจิทัลเกิดประโยชน์สูงสุดอย่างแท้จริง
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า Government Cloud ว่า เป็นการวางรากฐานด้านดิจิทัลต่อไปในอนาคต ด้วยการบริหารจัดการ Cloud Infrastructure ที่มีเสถียรภาพและมีความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานสากล เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถย้ายข้อมูลไปอยู่บนคลาวด์กลางภาครัฐ มุ่งสู่การเป็น Government as a Platform ขับเคลื่อนนโยบายการบริการข้อมูลภาครัฐแบบเปิดที่มีการบูรณาการข้อมูลร่วมกัน ภาคเอกชนและประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยี บริการ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างนวัตกรรมที่ส่งเสริมให้เกิดเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ 5 หน่วยงานได้รับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ Gov Cloud 2020 โดยใช้ระบบคลาวด์ GDCC พัฒนาระบบงานและเพิ่มประสิทธิภาพบริการประชาชน ได้แก่ 1.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก พัฒนาระบบ EEC-OSS เป็นช่องทางคัดกรองและอำนวยความสะดวกนักลงทุนแบบ One Stop service 2. กรมการขนส่งทางบก Smart bus Terminal ระบบติดตามรถโดยสารประจำทาง 3. ตำรวจภูธรภาค 8 พัฒนาระบบโครงการภาค 8 "4.0" ใน Application police 4. สํานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข พัฒนาระบบดิจิตอล healthcare platform 5. สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน จัดตั้งศูนย์สารสนเทศพลังงานแห่งชาติ NEIC ( National Energy Center Center) พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการเกี่ยวกับความสำเร็จเบื้องต้นของหน่วยงานที่ใช้งาน Gov Cloud ด้วย