วันที่ 23 ธ.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณัฐภัทร สุวรรณประทีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสุพรรณบุรี ลงนาม คำสั่งจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 18110/2563 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ระบุตอนหนึ่งว่า
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุพรรณบุรี ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.2563 จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 34 และมาตรา 35 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อ 7(1) ประกอบข้อ 1 และข้อ 13 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มี.ค.2563
จึงกำหนดให้ท้องที่ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นพื้นที่เสี่ยงที่มีความจำเป็นจะต้องยกระดับมาตรการในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้มข้นขึ้น จึงมีมติให้กำหนดมาตรการฯ เพื่อให้มีการปฏิบัติเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากคำสั่งจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ 18109/2563 ลงวันที่ 22 ธ.ค. 2563 เฉพาะในเขตท้องที่อ.สองพี่น้องเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 2563 ถึงวันที่ 3 ม.ค. พ2564 ดังนี้
1.ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะอยู่นอกเคหะสถาน
2.งดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท
3.สถานที่จำหน่ายอาหาร และเครื่องดื่มทุกชนิด รวมถึงร้านค้า แผงลอย รถเข็น แผงผลไม้ หรือสถานประกอบการอื่นในลักษณะเดียวกัน ให้จำหน่ายเพื่อนำกลับไปรับประทานในที่พักเท่านั้น ห้ามจัดให้มีสถานที่นั่งรับประทานโดยเด็ดขาด
4.งดใช้สถานที่หรือสนามออกกำลังกาย สนามกีฬาในร่ม และสถานที่อื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน
5.ห้ามมิให้มีการจัดงานเลี้ยงในงานบวช งานมงคลสมรส งานพิธีการศพ งานบุญทางศาสนา การไหว้บรรพบุรุษ (เช็งเม้ง) และงานประเพณีทุกชนิด สำหรับปฏิบัติในการจัดงานดังกล่าว ให้ถือปฏิบัติตามประกาศกระทรวงวัฒนธรรม เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับเทศกาล ประเพณี พิธีทางศาสนา และพิธีกรรมต่าง ๆ ลงวันที่ 1 เม.ย. 2563 โดยเคร่งครัด
6.ให้ปิดตลาดนัดและสถานที่ที่มีลักษณะเดียวกับตลาดนัดทุกแห่ง
7.ให้ปิดสวนสนุก บ้านลม บ้านบอล ที่เปิดให้บริการในตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า หรือในสถานที่ทั่วไป
8.ให้ปิดร้านเกม ร้านอินเทอร์เน็ต และร้านสนุกเกอร์
9.ให้ปิดสนามพระเครื่อง ตลาดนัดพระเครื่อง หรือร้านพระเครื่องที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันตั้งแต่ 3 ร้านขึ้นไป
10.ให้ปิดสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ กิจกรรมนวดแผนไทย อบไอน้ำและสมุนไพร
11.ให้ปิดโรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ และสถานที่จัดให้มีมหรสพทุกประเภท
12.ให้ปิดสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการและสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ร้านคาราโอเกะ ผับ บาร์ สถานบันเทิง
13.ให้ปิดสนามมวย สนามชนไก่ สนามซ้อมชนไก่ สนามชนโค สนามกัดปลา หรือสนามการแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน
14.ให้ปิดสถานที่ให้บริการสระว่ายน้ำ และสระว่ายน้ำที่เปิดให้บริการในโรงแรม
15.ให้ปิดสถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สถานดูแลผู้สูงอายุ และ
16.ให้ปิดโรงเรียน สถานศึกษาทุกระดับ สถานบันกวดวิชา และสถานที่สอนพิเศษ
ผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ มีโทษตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติตต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำทุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อนึ่ง ด้วยเหตุที่เป็นกรณีมีความจำเป็นเร่งด่วน เพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพของประชาชนและประโยชน์สาธารณะ หากปล่อยให้เนิ่นช้าไป อาจก่อผลเสียหายร้ายแรงต่อส่วนรวม จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโด้แย้งตามนัยมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
เพื่อให้มาตรการที่กำหนดข้างต้นบรรลุผลจึงขอความร่วมมือชาวอำเภอสองพี่น้อง งดเว้นการเดินทางออกนอกพื้นที่โดยไม่จำเป็น
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป