เปิดคำสั่งพ่อเมือง"สุราษฎร์" งัดมาตรการเร่งด่วนสกัด"โควิด-19

31 ธ.ค. 2563 | 07:36 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ธ.ค. 2563 | 09:52 น.

ผู้ว่า ฯ สุราษฎร์ธานี ออกมาตรการเข้มข้นหวังสกัดการแพร่ระบาดของผู้"ติดเชื้อโควิด-19" ผู้ที่เดินทางจากพื้นที่สีแดง -สีส้มตามประกาศของ ศบค.ให้กักตัว 14 วัน

นายวิชวุทย์  จินโต  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสุราษฎร์ธานี  กล่าวว่า  ได้ออกคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ 7469/2563 เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด -19  (COVID-19) (ฉบับที่ 29)


ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ 8 จนถึงวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2564


และได้ประกาศใช้ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563 กำหนดมาตรการและข้อปฏิบัติในการป้องกันการแพรระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นั้น

 

โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ได้ปรากฏการระบาดขึ้นใหม่ในหลายพื้นที่ทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค 

ดังนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 และมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ประกอบกับข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548(ฉบับที่ 15) เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563 


และประกาศเรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 8) ฉบับลงวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามมติที่ประชุมครั้งที่24/2563 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้
 

ข้อ 1 การจำกัดการดำเนินงานหรือกิจกรรมบางอย่าง ซึ่งมีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค


(1) งดการออกใบอนุญาตการจัดให้มีการเล่นการพนันชนไก่ กัดปลา ชกมวย แข่งม้า ชนโค และไพ่ผ่องไทย ส่วนกรณีเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตแล้ว ให้งดจัดให้มีการเล่นการพนันดังกล่าว


(2) ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ (เมียนมาร์ ลาว กัมพูชา) เข้าและออกจังหวัดสุราษฎร์ธานีในทุกกรณี และให้สถานประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวดูแลแรงงาน และจัดระบบความปลอดภัยด้านสาธารณสุข รณรงค์สร้างการรับรู้ไม่ให้เกิดการตระหนก และดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด


(3) สำหรับเรือบรรทุกสินค้า เรือบรรทุกน้ำมัน เรือประมง และเรือท่องเที่ยวทุกชนิด  ที่เดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดระยอง และจังหวัดชลบุรี หากเข้าเทียบท่า ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว ห้ามมิให้คนประจำเรือดังกล่าว ขึ้นมายังพื้นที่บนฝั่งโดยเด็ดขาด


(4) ผู้เดินทางกลับมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) และพื้นที่ควบคุม (สีส้ม)  ตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้รายงานตัวต่ออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือกำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชน และให้ใช้มาตรการกักกันอยู่ที่บ้านเพื่อสังเกตอาการ (Home Quarantine) โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตามอาการและตรวจวัดอุณภูมิร่างกาย ทุกวัน ตามระยะเวลาที่อยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี หรือจนครบ 14 วัน


(5) ผู้เดินทางกลับมาจากพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด (สีเหลือง) ตามประกาศของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้ใช้มาตรการแยกตัว ตามแนวทางควบคุมโรคตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดโดยเคร่งครัดเป็นเวลา 14 วัน เช่น การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา เว้นระยะห่างทางสัมคม หลีกเลี่ยงการสัมผัสระหว่างกัน หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่ชุมชน เป็นต้น


(6) การจัดกิจกรรมการประชุม อบรม สัมมนา การจัดแสดงสินค้า กิจกรรมทางศาสนา วัฒนธรรม งานเลี้ยงและงานประเพณี ให้ดำเนินการตามมาตรการ ดังนี้


1. กิจกรรม/กิจการที่มีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 50 คน ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการควบคุมโรค เช่น สวมหน้ากากอนามัย 100 % เน้นการทำความสะอาดมือ สถานที่ หรืออุปกรณ์ที่สัมผัสบ่อย หลีกเลี่ยงการสัมผัส เว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกัน ควบคุมจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมมิให้แออัด โดยคิดเกณฑ์ตามขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตรต่อคน และขอความร่วมมืองดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์


2. กิจกรรม/กิจการที่มีผู้เข้าร่วมเกิน 50 คน ให้ดำเนินการตามข้อ ก. และต้องยื่นแผนการจัดงานและมาตรการควบคุมโรค ต่อ ศปก.อำเภอ/เทศบาล อนุญาตก่อนจัดงาน


(7) ให้สถานบริการที่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2507 และสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ได้แก่ สถานบันเทิง ผับ บาร์  ร้านคาราโอเกะ และสถานที่ที่มีอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่ายหรือให้บริการ 
โดยจัดให้มีดนตรี  ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเพลงหรือการแสดงดนตรี หรือมีการจัดแสงหรือเสียง หรือการจัดแสดงอื่นใดเพื่อการบันเทิง จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการไม่เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนพื้นที่ โดยคิดเกณฑ์ตามขนาดพื้นที่ไม่น้อยกว่า 4 ตารางเมตรต่อคน และดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขโดยเคร่งครัด


เปิดคำสั่งพ่อเมือง\"สุราษฎร์\" งัดมาตรการเร่งด่วนสกัด\"โควิด-19

ข้อ 2 การดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคและการจัดระเบียบ


(1) ให้สถานประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า สนามกีฬาหรือสถานที่เพื่อการออกกำลังกาย สถานศึกษา และสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ เข้มงวดในการคัดกรองพนักงาน เจ้าหน้าที่ และผู้เข้าใช้บริการให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ได้แก่ การลงทะเบียนผู้เข้าใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” 


หรือการลงชื่อผู้เข้าใช้บริการ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกคน การเว้นระยะห่างทางสังคม พร้อมทำความสะอาดพื้นที่การปฏิบัติงานและ พื้นผิวสัมผัสเป็นประจำทุกวัน และเพิ่มความถี่ในจุดเสี่ยงโดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่มีการสัมผัสบ่อย ๆ เช่น ปุ่มกดลิฟท์ สวิตซ์ไฟฟ้า โทรศัพท์ ราวบันได เครื่องสแกนนิ้ว และลูกบิดประตู เป็นต้น

 

(2) ให้ประชาชนทุกคน ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด  โดยเคร่งครัด โดยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง การเว้นระยะห่างทางสังคม การล้างมือบ่อย ๆ และห้ามดำเนินการหรือกระทำการใด ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป

 

อนึ่ง การดำเนินการตามคำสั่งนี้ เป็นกรณีที่มีสถานการณ์อันกระทบหรืออาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อย และเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนหากปล่อยเนิ่นช้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชนหรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ จึงไม่อาจให้คู่กรณีใช้สิทธิโต้แย้งตามมาตรา 30 วรรคสอง (1) แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539

 

ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ เป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง  สั่ง ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ.2563

 

เปิดคำสั่งพ่อเมือง\"สุราษฎร์\" งัดมาตรการเร่งด่วนสกัด\"โควิด-19

 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวมข่าว "โควิด-19" วันที่ 31 ธ.ค.63 แบบอัพเดทล่าสุด

โควิด-19 ลาม 51 จังหวัด ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 จังหวัด

เปิด Timeline ผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่(31 ธ.ค.)

ยอดโควิด 31 ธ.ค.63 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 194 ราย จากในประเทศ 172 ราย ต่างประเทศ 13 ราย แรงงานต่างด้าว 9 ราย