3 มกราคม 2563 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ระหว่างการแถลงข่าวสถานการณ์โควิดทั้งในประเทศและต่างประเทศที่โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ได้เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (4 มกราคม 2564) ศบค.เตรียมนำข้อเสนอที่ได้จากการหารือของ ศบค.ชุดเล็ก และ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งได้มีการทบทวนมาตรการต่างๆเกี่ยวกับสถานการณ์โควิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยเบื้องต้นได้ข้อสรุปร่วมกัน รวม 8 ประการ ดังนี้
1.ห้ามใช้อาคารหรือสถานที่ที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ยกตัวอย่างเช่น โรงเรียน หรือสถาบันการศึกษาที่อยู่ในเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) ซึ่งครอบคลุมใน 28 จังหวัดที่ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดก่อนหน้านี้
2.ห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการควบคุมโรค เช่น การจัดประชุมสัมมนา งานเลี้ยง การแจกจ่ายอาหารและสิ่งของต่างๆเว้นแต่เป็นการดำเนินงานโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือ ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ ให้ ผู้ว่าฯ กทม.โดยคำแนะนำของ คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ หรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยคำแนะนำคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดหลักเกณฑ์ พิจารณา อนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ความรับผิดชอบ
3.การปิดสถานที่เสียงต่อการแพร่โรค ให้ ผู้ว่าฯ กทม. หรือ ผู้ว่าฯจังหวัด อาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อพิจารณาสั่งปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด
4.เงื่อนไขการเปิดดำเนินการกิจการต่างๆในเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้สถานที่ กิจการ หรือการทำกิจกรรม ดังต่อไปนี้ เปิดดำเนินการภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา และการจัดระบบ และระเบียบต่างๆที่กำหนด
(1) การจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม ให้จัดระเบียบการเข้าใช้บริการ จำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน การจัดสถานที่ให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติและมาตรการป้องกันโรคที่ราชการกำหนด โดยอาจให้เป็นลักษณะนำกลับไปบริโภคที่อื่นโดยให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ของกระทรวงมหาดไทยและศูนย์ปฏิบัติการสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ร่วมกันพิจารณา ประเมิน กำหนดรูปแบบและการกำกับดำเนินการตามข้อปฏิบัติและมาตรการดังกล่าวของแต่ละพื้นที่จังหวัดให้เหมาะสม
“ให้อำนาจคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเป็นผู้พิจารณาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประกอบกิจการร้านอาหาร” โฆษก ศบค. ระบุ
(2) การจำหน่ายสุราสำหรับร้านอาหาร สถานที่ซึ่งจำหน่ายสุรา ห้ามบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้าน
(3) ห้างสรรพสินค้า ยังให้เปิดให้บริการได้ตามปกติ
5.คำสั่งปิดหรือเปิดสถานประกอบกิจการต่างๆให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด สามารถมีคำสั่งเปิด หรือ ปิด ในพื้นที่ต่างๆเพิ่มเติมได้นอกเหนือจากพื้นที่ๆกำหนด
6.การเดินข้ามจังหวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีการตรวจคัดกรองการเดินทางโดยใช้เส้นทางคมนาคมข้ามเขตพื้นที่จังหวัดโดยเฉพาะการเดินทางของบุคคลจากเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ทั้งนี้ ให้ดำเนินการตามมาตรการที่ ศบค.กำหนดโดยพิจารณาถึงความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ ให้ประชาชนงดหรือ ชะลอการเดินทางเข้มเขตพื้นที่เว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็น
7.สนับสนุนให้ทำงานเวิร์คฟอร์มโฮม สลับวันเวลา เหลื่อมวันการทำงานเต็มที่
8.ให้คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายข้อบังคับการใช้มาตรการป้องกันและยับยั้ง เสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อให้อนุญาตให้ผ่อนคลาย หรือ กระชับมาตรการที่บังคับใช้สถานที่กิจการหรือกิจการเพิ่มเติมได้เหมาะสมตามสถานการณ์ที่เห็นสมควร
“สำหรับข้อเสนอต่างๆเหล่านี้ เลขาสมช. จะนำเสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการในวันพรุ่งนี้ซึ่งอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ผอ.ศบค.” นพ.ทวีศิลป์ โฆษก ศบค. กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทุบสถิติ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด 3 ม.ค.64 รายใหม่ 315 ในประเทศ 274 ราย