รายงานข่าวจาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระบุยืนยันว่า เมื่อวันที่ 5 มกราคม2564 ทางสนามบินได้รับรายงานอย่างไม่เป็นทางการ จากเจ้าหน้าที่คาร์โก้สายการบินต่าง ๆ รวมทั้งศุลกากร และบริษัทชิปปิ้งที่ทำงานใน เขตปลอดอากร (free zone) ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า มีพนักงานของบริษัทชิปปิ้งแห่งหนึ่ง จำนวน 1 คน ซึ่งทำงานในเขตฟรีโซนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แจ้งผลตรวจติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2564
อย่างไรก็ตามพนักงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้เดินทางเข้ามาทำงาน บริเวณคลังสินค้าของการบินไทย เมื่อวันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมาด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ฟรีโซน ต่างหวั่นวิตก และตั้งคำถามถึงกระบวนการตรวจคัดกรอง เนื่องจากพื้นทีดังกล่าวมีหลายหน่วยงานเข้าปฏิบัติงานในพิ้นที่
ล่าสุดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิชี้แจงกรณีมีพนักงานชิปปิ้งเข้ามาใช้บริการในเขตปลอดอากรติดเชื้อไวรัสโควิด-19
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่าในวันนี้ (6 มกราคม 2564) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้รับรายงานว่ามีพนักงานชิปปิ้งที่ได้รับแจ้งยืนยันว่าติดเชื้อโควิด - 19 ได้เข้ามาใช้บริการภายในเขตปลอดอากร
ทสภ. จึงได้มีการเร่งตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นพนักงานชิปปิ้งของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง มีหน้าที่ประสานงานด้านเอกสารเกี่ยวกับการนำเข้า - ส่งออกสินค้า ซึ่งต้องเข้ามาติดต่อหน่วยงานต่าง ๆ ในเขตปลอดอากรเป็นครั้งคราว โดยพนักงานคนนี้ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด – 19 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 และได้ทราบผลว่า ติดเชื้อไวรัสโควิด – 19
เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา เมื่อ ทสภ. ได้รับรายงานจึงได้มีการย้อนดูกล้อง CCTV พบว่าผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวได้มีการเข้ามาใช้บริการในสถานที่ภายในเขตปลอดอากร ในวันที่ 4 มกราคม 2564 ที่ผ่านมาซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าผู้ติดเชื้อมีการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ภายในเขตปลอดอากร
อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 ทสภ. จึงได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปฏิบัติงานภายในเขตปลอดอากรในวันดังกล่าว ได้เฝ้าสังเกตอาการ หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ หรือมีอาการผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที ทั้งนี้ ทสภ. ได้มีการพ่นน้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในบริเวณพื้นที่ที่ผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวไปใช้บริการเรียบร้อยแล้ว
ทสภ. ได้ถือปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ในทุกพื้นที่ของเขตปลอดอากร ทสภ. ดังนี้
1. เน้นย้ำให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
2. วางเจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อให้บริการตามจุดต่างๆ ภายในเขตปลอดอากร
3. เพิ่มรอบความถี่การทำความสะอาดโดยใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อตามสถานที่และจุดสัมผัสต่าง ๆ เช่น ลิฟท์โดยสาร ลิฟท์ขนของ ราวจับทางเดิน ราวจับบันได รวมถึงประตูทางเข้า - ออก อาคาร ทุก ๆ 2 ชั่วโมง ตลอด 24 ชั่วโมง
4. เช็ดทำความสะอาดและพ่นน้ำยาภายในรถเวียนและรถตู้ให้บริการภายในเขตปลอดอากร
5. เพิ่มรอบความถี่ในการทำความสะอาดห้องน้ำและพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด
6. ตรวจวัดอุณหภูมิและคัดกรองผู้ที่เข้ามาปฏิบัติงานทุกคนภายในเขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ขอให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่เข้ามาติดต่องานในเขตปลอดอากร ทสภ. ทุกท่านถือปฏิบัติตามมาตรการข้างต้นอย่างเคร่งครัด โดยต้องรักษาระยะห่าง (Social Distancing)
สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์เมื่อสัมผัสบริเวณจุดสัมผัสร่วม และให้ความร่วมมือในการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าพื้นที่ทุกจุดภายในเขตปลอดอากร รวมถึงสแกนแอปพลิเคชั่น ไทยชนะเพื่อสะดวกต่อการติดตามตัว
ทั้งนี้ ทสภ. จะติดตามสถานการณ์และทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ซึ่ง ทสภ. ยินดีให้ความร่วมมือและถือปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยยึดมั่นความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมเป็นสำคัญ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ปฏิบัติงาน ผู้ใช้บริการ และร่วมสร้างกำลังใจให้ทุกท่านผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน ทั้งนี้หากผู้ใช้บริการต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง