สมุทรสาครได้ที่ดิน8ไร่สร้างโรงพยาบาลสนาม1,000เตียง

06 ม.ค. 2564 | 10:14 น.

จังหวัด สมุทรสาครได้ที่ดิน8ไร่สร้างโรงพยาบาลสนาม1,000เตียง บนที่ดินของ"วัฒนาแฟคตอรี่" นายกอบต.พันท้ายนรสิงห์บริจาก เร่งมือปรับพื้นที่ ใช้เวลา10วันเสร็จ

 

 

 

หลังชาวจังหวัดสมุทรสาครต่อต้านตั้งโรงพยาบาลสนามใกล้เขตชุมชน เพราะเกรงจะเกิดการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น วันนี้(วันที่6มกราคม) นายวัฒนา แตงมณี นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้มอบที่ดินจำนวน8ไร่ ภายใน  “วัฒนา แฟคตอรี่”  พร้อมลงทุนก่อสร้างศูนย์รองรับผู้ป่วยโควิด-19หรือโรงพยาบาลสนาม  จำนวน 1,000 เตียง  รวมถึงอุปกรณ์ และทีมแพทย์  คาดว่าอีก10วันนับจากวันที่6มกราคมสามารถเปิดใช้บริการได้  

สมุทรสาครได้ที่ดิน8ไร่สร้างโรงพยาบาลสนาม1,000เตียง

 

 

 

 

สำหรับทำเลที่ตั้งโรงพยาบาลอยู่ติดกับนิคมสินสาครห่างจากถนนพระราม2เพียง1กิโลเมตรสะดวกต่อการเข้าออกของรถพยาบาล อีกทั้งห่างไกลชุมชน มีเพียงโรงงาน3แห่งของชาวสิงคโปร์ที่ซื้อที่ดินในวัฒนาแฟคตอรี่ไปซึ่งทั้ง3โรงงานก็ยินดีให้มีโรงพยาบาลสนามในเขตโรงงาน

อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าว มีทั้งหมด 100 ไร่ เป็นของตนเอง ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จัดสรรพื้นที่นิคม ฯแบ่งขาย หากโรงพยาบาลสนาม1,000 เตียงยังรองรับผู้ติดเชื้อไม่เพียงพอ นายวัฒนา ยืนยันว่าพร้อมจะ มอบที่ดินเพิ่มให้กับจังหวัดและไม่ต้องไปหาพื้นที่ที่ไหนอีกแล้วเพราะเกิดและเติบโตอยู่สมุทรสาคร ทำงานการเมืองตั้งแต่อายุ26ปีจนถึงปัจจุบันอายุ48ปี อยู่กับการเมืองดูแลช่วยเหลือชาวสุทรสาครมาโดยตลอด และเมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้ ยิ่งเต็มใจช่วยเพื่อนมนุษย์ในยามยากลำบากรวมทั้งแรงงานต่างด้าว

นายวัฒนาอธิบายต่อว่าที่ผ่านมา  ได้เคยมอบที่ดินบริเวณสวนน้ำพันท้ายนรสิงห์สวนน้ำเก่าพร้อมอาคาร เนื้อที่85ไร่ ซึ่งเป็นของบริษัทวิเศษสุขนคร ทางจังหวัดได้เดินทางมาดูเพื่อทำเป็นโรงพยาบาลสนาม 500เตียง แต่เนื่องจากตั้งอยู่ติดชุมชนมีร้านอาหาร และติดศาลพันท้ายฯ แต่ชุมชนคัดค้านจึงนำที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับทางจังหวัดดังกล่าว

 

 

 

“ในสมุทรสาครติดเชื้อโควิดมาก หากเปรียบก็เหมือนบ่อบางคราฟ หากตัวใดติดโรคต้องแยกออกโดยเร็วไม่เช่นนั้นแล้วจะ ติดเชื้อและตายหมดทั้งบ่อได้ ดังนั้นผู้ติดเชื้อโควิดต้องรีบแยกมาพักรักษาตัวรายไหนหายแล้ว ก็ย้ายรายใหม่เข้ามา ซึ่งปัญหาหลักของสมุทรสาครคือโรงพยาบาลไม่พอ  เราต้องดูแลทั้งเมียนมาให้เท่าๆกับคนไทยด้วยเพราเขาคือเพื่อมนุษย์เหมือนกับเราและจังหวัดก็ไม่ต้องไปหาพื้นที่ที่ไหนอีกแล้ว “