วันนี้ (8 ม.ค.) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมโครงการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพประจำชุมชนว่า ในวันที่ 18 มกราคมนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ได้นัดการประชุมใหญ่เพื่อรวมพลังเดินหน้าแผนงานโครงการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพประจำชุมชน เป้าหมายสู่การบูรณาการการศึกษาระดับจังหวัดทั่วประเทศ โดยเป็นการร่วมมือจากทุกหน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสร้างรากฐานทางการศึกษาระยะยาวอย่างมีคุณภาพ
“ในวันนั้นจะเป็นการขับเคลื่อน เพื่อเตรียมข้อมูลที่เหมาะสมในการนำเสนอต่อ ท่านนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ถึงแนวทางที่จะเป็นพื้นฐานของการพัฒนาการศึกษา และเป้าหมายเพื่อจะพยายามทำให้โรงเรียนเหล่านี้ มีครูครบชั้นครบวิชา ขณะเดียวกันยังมีความหลากหลายในการที่จะปรับหลักสูตรเพิ่มเติม ที่นอกเหนือจากด้านวิชาการนั้น ก็จะเป็นหลักสูตรที่เกี่ยวกับการพัฒนาทักษะอาชีพ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าว
สำหรับการประชุมวันนี้ ยังได้รับรายงานจากสภาการศึกษา ซึ่งได้ทำการลงในพื้นที่เป้าหมายเพื่อตรวจสอบข้อมูล พร้อมกับการทำงานวิจัยในด้านความต้องการต่างๆ รวมถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการผลักดัน การเพิ่มประสิทธิภาพ หรือการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพประจำชุมชนนั้น จะมีปัญหาอะไรบ้าง
ทั้งนี้ ส่วนในโครงการพัฒนาโรงเรียนคุณภาพประจำชุมชน ที่จะมีการนำร่องในจังหวัดภูเก็ตเป็นแห่งแรกนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ยังต้องรอทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดทำงบประมาณที่จะวางแผนงาน สำหรับปี 2565 หรือเหลื่อมไปปี 2566 หรือสามารถทำได้ใน ปี 2565 เอง
“ส่วนเรื่องของความเหมาะสมนั้น คงต้องลงไปดูผลได้ผลเสียของชุมชน การจัดเตรียมเรื่องของการจัดรถรับส่ง หรือว่าการวางระบบสาธารณูปโภคเชื่อมต่อเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งเป็นรายละเอียดที่หวังว่าภายในสิ้นเดือนนี้ (มกราคม) เราคงเห็นภาพชัดสำหรับโรงเรียนตัวอย่าง หรือโรงเรียนเป้าหมาย เพื่อให้ทั้งประเทศได้เห็นแนวทาง”
นายณัฏฐพล กล่าวอีกว่า สำหรับแผนของกระทรวงศึกษาที่วางไว้นั้น แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ โรงเรียนคุณภาพประจำชุมชน ซึ่งเป็นโรงเรียนประถม โรงเรียนที่เป็นตัวอย่างของโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง โดยเป็นโรงเรียนมัธยมที่เราจะทำให้มีความหลากหลายเพิ่มเติมจากด้านวิชาการ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและของชุมชนในพื้นที่นั้น และโรงเรียน stand alone ซึ่งมีอยู่หลายพันโรงเรียนนั้น โดยกระทรวงศึกษาธิการ มีความจำเป็นที่จะต้องจัดสรรงบประมาณใส่เข้าไป เพื่อทำให้โรงเรียน stand alone เป็นโรงเรียนที่มีคุณภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศนโยบาย ให้การ"สอบ O-NET" เป็นสิทธิ์ตามความสมัครใจ
สำรวจพื้นที่อาชีวะฯ รองรับโรงพยาบาลสนาม