นางสาวศิวพร รังสิยานนท์ รองโฆษกศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ แถลงรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ประจำวันที่ 11มกราคม 2564 ได้กล่าวว่า คุณภาพอากาศในภาพรวมทั่วประเทศอยู่ในเกณฑ์ดี - ดีมาก โดยเฉพาะภาคะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้อากาศดีมาก พบเกินค่ามาตรฐานเพียงในบางจังหวัด ได้แก่ จ.ตาก และ จ.เชียงใหม่ สาเหตุเนื่องจาก 17 จังหวัดภาคเหนือกำลังเร่งบริหารจัดการเชื้อเพลิง
สำหรับ สถานการณ์ PM2.5 ประจำวันที่ 11 มกราคม 2564 เวลา 07.00 น. ในภาพรวมทั่วประเทศคุณภาพอากาศอยู่ในเกณฑ์ดี - ดีมาก โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้อากาศดีมาก โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือตรวจวัดได้ 10 – 28 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) และภาคใต้ตรวจวัดได้ 6 - 25 มคก./ลบ.ม. และมีอากาศดีในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ. ร่วมกับ กทม. ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 19 - 50 มคก./ลบ.ม. และภาคตะวันออกตรวจวัดได้ 22 - 31 มคก./ลบ.ม.
รวมทั้งภาคกลางและตะวันตกตรวจวัดได้ 6 - 47 มคก./ลบ.ม. พื้นที่ซึ่งต้องมีการเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในวันนี้ มีการพบเกินค่ามาตรฐานเพียงในบางจังหวัดได้แก่ภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 19-70 มคก./ลบ.ม. เกินค่ามาตรฐานใน จ.ตาก และ จ.เชียงใหม่ สาเหตุที่ในวันนี้พบปริมาณฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นในบางพื้นที่ เนื่องจาก 17 จังหวัดภาคเหนือกำลังเร่งบริหารจัดการเชื้อเพลิงเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับมือและจะช่วยลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์หมอกควันในช่วงวิกฤตระหว่างกุมภาพันธ์ – เมษายน ได้
ศกพ. ได้ประสานการบูรณาการแก้ไขปัญหา ร่วมกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก และกรุงเทพมหานคร รวมทั้งจังหวัดปริมณฑล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำกับดูแลแหล่งกำเนิดอย่างเข้มงวดอย่างต่อเนื่องเพื่อบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ ขอให้พี่น้องประชาชนดูแลสุขภาพ สวมใส่หน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันตัวเอง เมื่อออกนอกบ้าน หากจอดรถยนต์ขอความกรุณาดับเครื่องยนต์ และขอให้หมั่นบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้ก่อควันดำ
นางสาวศิวพร กล่าวต่อว่า ศกพ. มีประเด็นนำเรียนเรื่องการเตรียมความพร้อมรับมือปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ เนื่องจากช่วงนี้เป็นการเตรียมพื้นที่สำหรับการเพาะปลูกในฤดูกาลถัดไป อาจจะมีปัญหา PM2.5 จากการเผาในที่โล่ง ใน 17 จังหวัดภาคเหนือได้ ซึ่งภาครัฐได้เตรียมรับมือมาตั้งแต่ปลายปี 2563 โดยบูรณาการกับทุกภาคส่วน ดำเนินการภายใต้ พรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปี 2550 มีผู้ว่าราชการจังหวัดบริหารงานแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) ใน 4 พื้นที่
ประกอบด้วย พื้นที่ป่า พื้นที่เกษตร พื้นที่ริมทาง และพื้นที่ชุมชน โดยใช้ 5 มาตรการ ได้แก่ ระบบบัญชาการ การลดเชื้อเพลิงการสร้างความตระหนัก การสร้างเครือข่ายจิตอาสา และการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งตอนนี้ในพื้นที่ภาคเหนือกำลังดำเนินโครงการ “ชิงเก็บ ลดเผา” เพื่อนำเศษวัสดุทางการเกษตรมาใช้ประโยชน์แทนการเผา ก็จะช่วยลดเชื้อเพลิงได้อีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ ศกพ. ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ลดการเผาเพื่อป้องกันปัญหา PM2.5
พี่น้องประชาชนจะสามารถเลือกดูข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง และแบบค่าเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมง โดยท่านสามารถติดตามข้อมูลได้จากเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK ท่านยังสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage“ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)” นางสาวศิวพร กล่าว