นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย รองอธิบดีกรมทางหลวง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมท่าอากาศยาน กล่าวถึง การให้บริการของท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่า กรมท่าอากาศยานยังคงให้บริการท่าอากาศยานตามปกติ และเพิ่มความเข้มงวดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในระบบขนส่งสาธารณะ ตามนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
โดยการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ทั้งในส่วนของภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร และสายการบินซึ่งกรมท่าอากาศยานได้มีหนังสือขอความร่วมมือถึงสายการบิน เพื่อรักษาระห่างตลอดการเดินทาง ตั้งแต่ขั้นตอนการลำเลียงผู้โดยสารขึ้นและลงจากอากาศยานโดยเฉพาะรถบัส การเดินเท้า หรือสะพานเทียบ การรวมกลุ่มในขณะจัดเก็บสัมภาระในที่เก็บของเหนือศีรษะ การเข้าแถวรอใช้ห้องน้ำในห้องโดยสาร ซึ่งต้องมีระยะห่างที่เหมาะสมสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษด้วย
รวมถึงยังได้แจ้งให้ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะที่เข้ามารับ-ส่งผู้โดยสาร ต้องมีการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวด้วย โดยได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการเดินทาง
นายอภิรัฐ กล่าวต่อถึงมาตรการของกรมท่าอากาศยานที่ให้ทุกท่าอากาศยานมีการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ทำความสะอาดพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร รถเข็น เก้าอี้ ราวบันได รวมถึงอุปกรณ์ปฏิบัติงาน จัดจุดบริการเจล แอลกอฮอล์แก่ผู้โดยสาร เพื่อความสะอาดและสร้างความมั่นใจแก่ผู้โดยสาร สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางในช่วงนี้ ต้องตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิทั้งขาเข้า - ขาออก และต้องเช็คอิน/เช็คเอาท์แอปพลิเคชั่นไทยชนะ/หมอชนะ ทุกครั้งที่ใช้บริการ
รวมถึงปฏิบัติตนตามเงื่อนไขในประกาศของแต่ละจังหวัด ทั้งนี้ ยังได้เน้นย้ำให้ผู้อำนวยการท่าอากาศยานทุกแห่งของกรมท่าอากาศยานต้องการ์ดไม่ตก และปฏิบัติตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยอย่างเข้มงวด
โดยได้แนะนำข้อปฏิบัติการเดินทางผ่านท่าอากาศยานในยุค New Normal ดังนี้
1.เช็คอินออนไลน์ผ่าน Website, Mobile Application หรือตู้ Kiosk เพื่อลดการสัมผัส
2.เว้นระยะห่างตามจุดที่กำหนดไว้ภายในท่าอากาศยานอย่างเคร่งครัด
3.สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่อยู่ภายในท่าอากาศยาน และตลอดการเดินทาง
4.หมั่นล้างมือเป็นประจำทุกครั้งหลังสัมผัสกับสิ่งของต่างๆ โดยพกพาแอลกอฮอล์เจล/สเปรย์ขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร เพื่อสามารถพกพาขึ้นเครื่องบินได้
5.การเดินทางเข้าและออกท่าอากาศยาน จะต้องเช็คอิน/เช็คเอาท์ แอปพลิเคชั่น ไทยชนะ /หมอชนะ ทุกครั้งที่ใช้บริการ
6.เพื่อลดความแออัดภายในอาคารที่พักผู้โดยสาร ผู้โดยสารและ ผู้ใช้บริการ สามารถเช็คสถานะเที่ยวบินของท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยานได้แบบ Real time ผ่านทางแอปพลิเคชั่น ThaiFlightInfo ซึ่งสามารถดาวน์โหลดฟรีได้ทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Andriod
นอกจากนี้ ด้านการช่วยเหลือผู้ประกอบการในท่าอากาศยาน ทั้งสายการบินและผู้ประกอบการร้านค้า กรมท่าอากาศยานได้หารือเบื้องต้นในการต่อเวลาลดอัตราค่าเช่าสำหรับผู้ประกอบการทุกกิจกรรมของท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องจากปี พ.ศ. 2563 และอยู่ระหว่างการหารือมาตรการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมท่าอากาศยาน ชี้แจงกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิดที่สนามบินตรัง
ทย.แจงผู้โดยสารเส้นทางบุรีรัมย์ต้องกักตัว14วันเริ่มวันนี้