จำคุก 42 นักเที่ยวย่านสุขุมวิท ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

16 ม.ค. 2564 | 13:08 น.

จำคุก 42 นักเที่ยวย่านสุขุมวิท ผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน- ปรับคนละ 5,000 บาท จำคุก 1 เดือน พร้อมกันนี้ อัยการส่งฟ้อง 2 ต่างชาติ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง จำคุก 3 เดือน และ 9 เดือน


ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2564 ที่ศาลแขวงพระนครใต้ พนักงานอัยการสำนักงานอัยการคดีศาลแขวง 4 (ยานนาวา) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องด้วยวาจา คดีหมายเลขดำที่ 83/2564 น.ส.ศศิมา บัวจันทร์และพวก รวม 42 คน ฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ เนื่องจากในคืนวันที่ 15 ม.ค. 2564 นักเที่ยวทั้ง 42 คน ได้เข้าไปใช้บริการในร้านอาหารชื่อ TAJ CAFÉ ซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานครโดยช่วงเวลาดังกล่าว ยังเป็นวันและเวลาตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร และประกาศดังกล่าวยังมีผลใช้บังคับอยู่

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมจำเลยทั้ง 42 คน และได้นำส่งพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนแล้ว ชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 42 ให้การรับสารภาพ การกระทำของจำเลยทั้ง 42 คน เป็นการกระทำโดยรู้สำนึกในการกระทำ แต่ขาดความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ในการป้องกันและควบคุมมิให้โรคระบาดแพร่ระบาดออกไปในวงกว้าง จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยในอัตราอันสูงสุดเพื่อให้เข็ดหลาบ ตาม พ.ร.ก.บริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 มาตรา 4, 5, 7, 9, 18, 19 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 25 มี.ค.63 , ประกาศเรื่องการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (คราวที่ 1-9) , ประกาศเรื่องการให้ข้อกำหนดประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ยังคงมีผลใช้บังคับ 28 เม.ย.63 และข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 (ฉบับที่15) ข้อ 1และข้อ 3

 

ศาลพิพากษาว่า จำเลยทั้ง 42 มีความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 9, 18 จำคุกคนละ 2 เดือน และปรับคนละ 1 หมื่นบาท จำเลยทั้ง 42 ให้การรับสารภาพลดโทษลงกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกคนละ 1 เดือน และปรับคนละ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 42 เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56

นอกจากนี้ พนักงานอัยการสำนักอัยการายคดีศาลแขวง 4 ยังยื่นฟ้องชาวต่างชาติ 2 คน คือ นายคริสเตียน อากาบูเช่โอเคซูคู เเละนายออยเยบิซี อีเซดินูวู ในความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เเละพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ การกระทำของจำเลยทั้ง 2 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91

จำเลยที่ 1 ฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด จำคุก 4 เดือนและปรับ 1 หมื่นบาท ส่วนจำเลยที่ 2 ลงโทษฐานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 4 เดือนและปรับ 6 พันบาท และฐานเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 1 ปีและปรับ 1.6 หมื่นบาท ฐานฝ่าฝืนข้อกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน จำคุกคนละ 2 เดือนปรับคนละ 1 หมื่นบาท

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 3 เดือน และปรับ 1 หมื่นบาท และจำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 9 เดือนและปรับ 1.6 หมื่นบาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด 2 ปีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 56