บทเรียน"แม่นกน้อย" ขายบ้านเลี้ยงวงหมอลำ"อาชีพไร้หลักประกัน" 

18 ม.ค. 2564 | 05:40 น.

หมอลำโดนพิษโควิด-19 กระหน่ำ งานถูกเลื่อน-งดเรียบ ต้องตกงานแยกวงกลับบ้าน "แม่นกน้อย"ประกาศขายบ้านพัก 70 ล้านบาท หวังต่อลมหายใจวงคณะหมอลำ"เสียงอีสาน" ชี้รับสัญญาจ้างเป็นงาน ๆ ไร้หลักประกันสังคม ทำเดือดร้อนหนัก  



ศิลปินลูกทุ่งหมอลำโดนพิษโควิด-19 กระหน่ำ งานถูกเลื่อน-งดเรียบ ต้องตกงานแยกวงกลับบ้าน "แม่นกน้อย"ประกาศขายบ้านพัก 70 ล้านบาท หวังต่อลมหายใจวงคณะหมอลำ"เสียงอีสาน"ดูแลลูกวงกว่าเกือบ 400 ชีวิต ชี้รับสัญญาจ้างเป็นงาน ๆ ไร้หลักประกันสังคม ทำเดือดร้อนหนัก  

    

นางอุไร ฉิมหลวง  หรือ"แม่นกน้อย อุไรพร"หัวหน้าวงหมอลำ”เสียงอีสาน” และประธานชมรมเครือข่ายคณะหมอลำอีสาน ภาคอีสาน   ไลฟ์สดทางสื่อสังคมออนไลน์ ประกาศขายบ้านหลังใหญ่ ตั้งบนเนื้อที่ 4 ไร่เศษ ในราคา 70 ล้านบาท  ซึ่งเป็นบ้านพักส่วนตัวของแม่นกน้อย กับนายมัยกิจ ฉิมหลวง หรืออาทิดหลอด หรือพ่อหลอดของลูกวง  สามีที่อยู่กินมานานกว่า 46 ปี เท่าอายุวง ท่ามกลางความกังวลสงสัยของผู้ชื่นชอบติดตามผลงานและสาธารณชนทั่วไป ว่าเกิดอะไรขึ้น หรือจะยุบเลิกวงหมอลำ"เสียงอีสาน
  แม่นกน้อย อุไรพร    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 15 ม.ค. 2564 แม่นกน้อย เปิดบ้านเลขที่ 555 ม.17 บ้านหนองใส ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี  ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ว่า  การแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 ส่งผลกระทบทั้งรอบแรกและต่อเนื่องถึงรอบใหม่  ทำให้คณะหมอลำเสียงอีสาน ที่เพึ่งกลับมาเปิดวงเมื่อเดือนตุลาคม 2563 เพื่อเตรียมรับงานแสดงที่มีผู้ว่าจ้างเอาไว้ พอระบาดรอบใหม่คิวงานแสดงที่มีสัญญาไว้ต้องยกเลิก หรือเลื่อนไม่มีกำหนดกว่า 100 คิว คิดเป็นค่าเสียหายกว่า 100 ล้านบาทเศษ 
    

เหตุการณ์นี้ทำให้ลูกวงหมอลำเสียงอีสานที่มีอยู่กว่า 390 ชีวิต ต้องตกงาน ไม่มีรายได้ ส่วนหนึ่งต้องแยกย้ายกลับไปอยู่ที่บ้าน  ที่เหลืออยู่ประมาณ 150 คน ต้องหาอาชีพอื่นทำหารายได้ เช่น ขายอาหารพื้นบ้านที่ริมรั้วบ้านพักแม่นกน้อยฯ ให้กับประชาชนทั่วไปที่ผ่านไปมา เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ ส่วนตัวแม่นกน้อยฯ ยังขายน้ำปลาร้าปรุงรส แจ่วบองปลาร้า ทางออนไลน์ แต่ยอดขายก็น้อยลง 
    

ประกอบกับต้องคอยเฝ้าดูแลนายมัยกิจ สามีคู่ชีวิต ที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ตั้งวงโดยไม่มีทายาท และเวลานี้รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี จากหลายโรครุมเร้ามากกว่า 4-5 ปี 
    

"ที่ไลฟ์สดประกาศขายบ้านไปนั้น คือบ้านหลังใหญ่ที่สร้างจากน้ำพักน้ำแรงร่วมกันกับสามี เป็นบ้านไม้สักผสมปูน  ใช้เงินก่อสร้างไปเกือบ 100 ล้านบาท เสร็จเมื่อปี 2550  จะขายในราคา 70 ล้านบาท มีเนื้อที่ 4 ไร่เศษ   แยกส่วนจากที่แปลงใหญ่ที่มีอยู่ประมาณ 50 ไร่เศษ ที่ใช้ปลูกเป็นบ้านพักลูกวง ทั้งนักร้อง นักดนตรี แดนเซอร์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ  แต่หากใครต้องการซื้อหมดทั้งแปลงผืนใหญ่ จะขายในราคา 120 ล้านบาท  ซึ่งหลังจากที่ไลฟ์สดประกาศขายบ้านไปแล้ว ก็มีผู้สนใจได้สอบถามทางโทรศัพท์มาสอบถามแล้วหลายราย"นางนกน้อยกล่าว

บทเรียน"แม่นกน้อย" ขายบ้านเลี้ยงวงหมอลำ"อาชีพไร้หลักประกัน" 
  

บทเรียน"แม่นกน้อย" ขายบ้านเลี้ยงวงหมอลำ"อาชีพไร้หลักประกัน"   

เงินจากการขายบ้านและที่ดินครั้งนี้ นางนกน้อยกล่าวว่า จะนำรักษาอาการป่วยสามี อีกส่วนหนึ่งนำไปชำระหนี้ทั้งในและนอกระบบที่มีอยู่ประมาณ 30 ล้านบาท  ที่เหลือจะใช้ขับเคลื่อนวงคณะหมอลำ"เสียงอีสาน" ดูแลลูก ๆ  ของวง กว่า 390 ชีวิต ซึ่งทุกคนเมื่อทราบเรื่องหลังจากที่ได้ไลฟ์สดประกาศขายบ้านออกไป ก็บอกมาว่า พร้อมกลับมาร่วมขับเคลื่อนวงคณะหมอลำอีสาน"เสียงอีสาน" เพื่อตอบแทนบุณคุณพ่อหลอด ให้วงเดินหน้าต่อเพื่อสืบสานวัฒนธรรมหมอลำอีสานให้อยู่คู่กับคนอีสานต่อไป   
    

แม่นกน้อยฯกล่าวย้ำหนักแน่นว่า ขอยืนยันว่าจะยังดำเนินธุรกิจวงหมอลำเสียงอีสานต่อไป ไม่ยุบไม่เลิกวงอย่างแน่นอน  เนื่องจากได้มีปรึกษากับสามีแล้ว สั่งให้รักษาคณะหมอลำเสียงอีสานต่อไป 
  บทเรียน"แม่นกน้อย" ขายบ้านเลี้ยงวงหมอลำ"อาชีพไร้หลักประกัน"               

แม่นกน้อยฯกล่าวด้วยว่า การระบาดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ ยังกระทบคณะหมอลำอีสานทั่วไปหมด รวมทั้งที่เป็นสมาขิกชมรมเครือข่ายหมอลำลำอีสาน ที่มีอยู่กว่า 30-40 วง เหมือนกันหมด ทำให้มีคนตกงานเป็นจำนวนมาก โดยยังไม่รู้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างไรบ้าง เพราะเกือบทั้งหมดไม่ได้อยู่ในระบบประกันสังคม เนื่องจากลักษณะการทำงานจะเป็นสัญญาจ้างเป็นครั้ง ๆ ไป ทำให้เดือดร้อนกันมากเวลานี้ 

บทเรียน"แม่นกน้อย" ขายบ้านเลี้ยงวงหมอลำ"อาชีพไร้หลักประกัน" 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"เราชนะ" กลุ่มไหนรับเงินเยียวยา3500 หลายต่อ สรุปครบจบที่นี่

ท่องเที่ยว"แม่กลอง"อ่วมร้องผู้ว่าฯ"ล็อกดาวน์"ด่วน

“อุดรธานี”ป่วนติดโควิดรายแรกโยงสมุทรสาคร - 800 คนเสี่ยง

อุดรฯเข้มห้าม"รวมกลุ่ม-ย้ายแรงงานต่างด้าว"