วานนี้ (21 ม.ค. 64) นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีข้อมูลจากหลายหน่วยงานแจ้งว่า การสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ดีและประหยัดที่สุด ซึ่งปัจจุบันประชาชนตื่นตัวในการสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่สาธารณะหรือสถานที่ที่มีผู้พลุกพล่าน อาทิ สถานประกอบการ ร้านค้า ป้ายรถโดยสารประจำทาง รวมถึงประชาชนที่สัญจรตามบาทวิถี
โดยในช่วงเวลาเช้าและเย็นซึ่งเป็นช่วงเวลาเร่งด่วนที่มีประชาชนสัญจรจำนวนมากจำเป็นต้องเดินทางไปประกอบอาชีพหรือกลับที่พัก ประชาชนสวมใส่หน้ากากอนามัยมากถึงร้อยละ 90 แต่ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ไม่ใช่เวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น ประชาชนบางส่วนละเลยการสวมใส่หน้ากากอนามัย โดยมีการสวมใส่หน้ากากอนามัยลดลงอยู่ที่ประมาณร้อยละ 80 ต่อกรณีดังกล่าวกรุงเทพมหานครจึงได้เน้นย้ำให้สำนักงานเขต โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทศกิจ หมั่นสอดส่องดูแล ให้คำแนะนำ และตักเตือน ให้ประชาชนบางส่วนที่ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย หรือสวมใส่หน้ากากอนามัยไม่ถูกวิธี เช่น ใส่หน้ากากไว้ใต้คาง หรือใส่หน้ากากอนามัยโดยเปิดปากเพื่อหายใจ เป็นต้น
นอกจากนี้กรุงเทพมหานครยังขอฝากประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล ให้คำแนะนำ หรือเตือนกันและกัน หากพบผู้ที่ไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือใส่หน้ากากอนามัยแบบไม่ถูกวิธี ขอให้เตือนหรือแนะนำกันอย่างสุภาพเพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งหรือความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้หากมีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น อาจทำให้กรุงเทพมหานครหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นกำหนดมาตราการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดที่เข้มงวดเพิ่มเติม จนอาจถึงขั้นปิดสถานที่ กิจการ กิจกรรมบางอย่างเป็นการชั่วคราวอีก ซึ่งจะส่งผลให้สังคมส่วนใหญ่ต้องได้รับความเดือดร้อนกันไปด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
คนบันเทิงผวา ศบค.ยัน “ดีเจมะตูม” ไม่ใช่ Super Spreader
รวมข่าว "โควิด-19" วันที่ 22 ม.ค.64 แบบอัพเดทล่าสุด
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ย้ำไม่ต้องลงทะเบียนเราชนะ ได้เงินเยียวยาก่อนทุกกลุ่ม