วันนี้(28 ม.ค.64) ที่สภาผู้แทนราษฎร นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ตอบกระทู้ถาม ของ นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ถึงการแก้ไขปัญหาการจราจรและผิวจราจรถนนดินแดง 1 ซึ่งเป็นถนนเชื่อมจากถนนดินแดงเข้าไปหลังแฟลตดินแดง 1-8 โดยถนนดังกล่าวมีซอยเชื่อมจำนวนมาก และมีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น ทำให้ต้องนำรถยนต์มาจอดบนถนนตลอดแนวฝั่งอาคารพาณิชย์
นายนิพนธ์ ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่าถนนดินแดง 1 อยู่ในความดูแลของกรงเทพมหานคร(กทม.) ซึ่งเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ มีสภากรุงเทพมหานครในการกำกับบริหารราชการ จึงได้ประสานไปยัง กทม.มีแนวทางแก้ไขเบื้องต้นคือ
1. โดยให้แก้ไขข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรสำหรับการเดินรถ ให้ถนนดินแดงสามารถเดินรถได้ทางเดียวจากเดิมที่เดินรถได้ 2 ทาง
2. แก้ไขป้ายจราจรห้ามจอดให้มีความชัดเจนตามข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจร คือห้ามจอดรถในช่วงเวลา 06.00 – 09.00 น. และ 16.00 – 19.00 น. ในฝั่งอาคารพาณิชย์และห้ามจอดตลอดเวลาในฝั่งแฟลตดินแดง โดยจะมีการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทราบอย่างทั่วถึง
3. จะเร่งรัดเมื่อกรณีที่ 1 และ 2 เสร็จแล้วจะพิจารณากวดขันข้อบังคับจราจรอย่างเคร่งครัดต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยมีความห่วงใยในความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ จึงประสานกรุงเทพมหานครถึงแนวทางแก้ไขซ่อมแซมผิวที่ชำรุดเบื้องต้นเป็นการชั่วคราวภายในเดือนมกราคม 2564 และได้ขอจัดสรรงบประมาณปรับปรุงถนนดินแดง 1 ความยาวประมาณ 750 เมตร ในงบประมาณประจำปี 2565 แล้ว
จากนั้น นายนิพนธ์ ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตอบกระทู้ถามแยกเฉพาะของนายประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ถึงการเพิกถอนหรือการแก้ไขโฉนดที่ดินและหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก) ตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน
นายนิพนธ์ ชี้แจงว่า การใช้อำนาจของอธิบดีกรมที่ดินในการสั่งเพิกถอนหรือแก้ไขโฉนดที่ดิน หรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ในที่ดินของบุคคลใด กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการที่ออกตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กำหนดเป็นหลักการว่า อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายจะมีคำสั่งให้เพิกถอนได้ต่อเมื่อเกิดความปรากฏชัดแจ้งแล้ว หากยังไม่ชัดเจน มีการโต้แย้ง คัดค้าน ว่าได้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์คลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายก็จะใช้อำนาจให้คณะกรรมการสอบสวนดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับรายงานการสอบสวน
สำหรับแนวทางในการพัฒนาการดำเนินการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน กระทรวงมหาดไทยและกรมที่ดิน นอกจากถือแนวทางปฏิบัติตามกฎหมายแล้ว กรมที่ดินยังได้มีหนังสือแจ้งถึงความคืบหน้า และได้กำชับ เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ถูกต้องและครบถ้วน ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
ในส่วนกรณีที่เกิดความล่าช้าหรือไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมายที่กำหนด ผู้ร้องสามารถสอบถามความคืบหน้าในการดำเนินจากกรมที่ดินหรือสำนักงานที่ดินได้ซึ่งกรมที่ดินหรือสำนักงานที่ดินจะแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการให้ผู้ร้องทราบเป็นกรณี ๆ ไป