องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ออกมาเรียกร้องเรื่องการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีของวัคซีนและส่วนผสม ที่จำเป็นต่อการใช้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 หลังจากที่สหภาพยุโรป(อียู) ออกมาควบคุมในเรื่องนี้ เนื่องจากผู้ผลิตไม่สามารถผลิตวัคซีนได้เพียงพอกับความต้องการภายในกลุ่ม
นางมาเรียแองเจลา ซีเมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ของหน่วยงานด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ได้ออกมาเรียกร้องเรื่องนี้ เพื่อตอบโต้การควบคุมการส่งออกวัคซีน COVID-19 ของสหภาพยุโรป สำหรับวัคซีนที่ผลิตในอียู
เธอบอกว่า WHO มีความวิตกกังวลต่อมาตรการของอียูในการห้ามส่งออกวัคซีน COVID-19 ซึ่งมีการประกาศเมื่อวันศุกร์
นางสเตลล่า ไคเรียกิเดส กรรมาธิการด้านสุขภาพและความปลอดภัยของอาหารแห่งยุโรป ให้เหตุผลของมาตรการดังกล่าวว่า “การปกป้องและความปลอดภัยของพลเมืองของเราเป็นสิ่งสำคัญ และความท้าทายที่เราเผชิญอยู่ในขณะนี้ ก็ทำให้เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดำเนินการ”
การควบคุมดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อ 100 ประเทศทั่วโลกรวมถึง สหราชอาณาจักร สหรัฐ แคนาดา และ ออสเตรเลีย
ทาง WHO ชี้ว่านี่เป็น แนวโน้มที่น่ากังวลมาก และมันไม่มีประโยชน์อะไรในขั้นตอนนี้ ที่ประเทศใด จะออกมาห้ามหรือขัดขวางการส่งออก ที่จะทำให้ไม่มีการเคลื่อนย้ายอย่างเสรีของส่วนผสมที่จำเป็นต่อการทำวัคซีน การวินิจฉัยโรค และตัวยาอื่น ๆ
ซีเมาบอกว่า ตัวยาและวัคซีนต่าง ๆ ก็มีส่วนประกอบต่าง ๆ ที่มาจากทั่วโลก
ก่อนหน้านี้ นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO ระบุว่า “ ลัทธิวัคซีนชาตินิยมอาจนำไปสู่ความยืดเยื้อในการฟื้นตัว การกักตุนวัคซีนจะทำให้การระบาดของโรคหนักมากขึ้น และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจะเป็นไปอย่างเชื่องช้า