อึ้ง! ผลซูเปอร์โพล 98.9% เชื่อมีวิ่งเต้นล้มสรรหา กสทช. 

12 ก.พ. 2564 | 06:01 น.

ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจกรณี กสทช. พบประชาชนส่วนใหญ่ เชื่อว่ามีขบวนการวิ่งเต้น ส.ว.ล้มการสรรหา กสทช.

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่องเจาะกรณี กสทช. กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ  และการวิจัยเชิงคุณภาพ  จำนวน 1,526 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 10 – 12 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.3 ติดตามข่าว การสรรหากรรมการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ในขณะที่ ร้อยละ 3.7 ไม่ได้ติดตาม

 

ทั้งนี้ จากผลสำรวจยังพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.9 เชื่อว่ามีขบวนการวิ่งเต้นวุฒิสมาชิก (ส.ว.) ผ่านนายทหารคนสนิทของผู้มีอำนาจในรัฐบาล ล้มการสรรหา กสทช.  นอกจากนี้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.3 ระบุ วุฒิสมาชิก (ส.ว.) ควรเร่งกอบกู้ภาพลักษณ์ที่ถูกมองว่า เป็น ส.ว. ฝักถั่ว มีไว้ตั้งนายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจ คสช. มาต่อต้านขบวนการวิ่งเต้นล้มการสรรหา กสทช. และที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.8 ของประชาชนที่ถูกศึกษา เคลือบแคลงสงสัย ผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาลและวุฒิสภาบางคนเอื้อต่อการล้ม การสรรหา กสทช.

 

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่เกือบร้อยละร้อย หรือร้อยละ 98.3 ต้องการให้เดินหน้าสรรหาต่อ ได้คนดีมีประสบการณ์ปราบทุจริตใน กสทช. ได้สำเร็จเข้าไป ปกป้องรักษาผลประโยชน์ชาติและของประชาชน

ดร.นพดล กล่าวว่า “เสื่อมหนัก ส.ว.” ถ้า ส.ว.ทำไม่ดีจะกระทบเสาหลักของชาติ และ คนใกล้ชิดผู้มีอำนาจในรัฐบาลที่ทำให้ ประชาชนส่วนใหญ่เกือบร้อยละร้อยเคลือบแคลงสงสัยในความพยายามวิ่งเต้นล้มการสรรหากรรมการ กสทช. ที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของวุฒิสภา ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่าประชาชนชาวบ้านธรรมดาหรือ คณะราษฎรทั่วไปยังมีจิตสำนึกที่ดีในความพยายามปกป้องรักษาผลประโยชน์ชาติและผลประโยชน์ของแผ่นดิน ถึงแม้พวกเขาไม่ได้มีอำนาจอะไรในวุฒิสภา

 

หากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่สูงกว่าวุฒิสมาชิก (ส.ว.) ไม่สนใจเข้ามาทำให้ความเคลือบแคลงสงสัยของประชาชนดีขึ้นต่อ ส.ว. ปล่อยให้มีการล้มการสรรหาในวุฒิสภา อาจส่งผลทำให้ ผลประโยชน์ชาติในเงินกองทุนหลายหมื่นล้านบาทตกไปอยู่ในมือของคนเฉพาะกลุ่มที่เกาะติดกับอำนาจของผู้ใหญ่ในรัฐบาลและในวุฒิสภาตอนนี้แทนที่จะเอาเงินเข้าแผ่นดินและรักษาผลประโยชน์ชาติไว้ ดังนั้นทุกภาคส่วนต้องออกมาปกป้องผลประโยชน์ชาติและผลประโยชน์ของประชาชนในห้วงเวลานี้อย่างใกล้ชิด