ศบค.เล็งขยายกักตัวต่างชาติ 21 วัน  กลุ่มเสี่ยงโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้

15 ก.พ. 2564 | 06:13 น.

ศบค.เตรียมขยายกักตัวต่างชาติ 21 วัน  กลุ่มเสี่ยงโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ ป้องกันการแพร่ระบาดเข้าประเทศไทย

 

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวถึงการป้องกันโควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้  หลังเกิดกรณีผู้ป่วยเพศชายอายุ 41 ปี  ที่เดินทางมาจากแทนซาเนีย ต่อเครื่องที่เอธิโอเปีย ตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  หรือ โควิด-19 ในขณะกักตัวในสถานกักกันโรคของรัฐ  จากนั้น กรมควบคุมโรคส่งตัวอย่างตรวจระบุสายพันธุ์ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาล (รพ.) จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ยืนยันผลว่าสายพันธุ์แอฟริการายแรกของไทย

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ไม่ว่าสายพันธุ์อังกฤษ หรือสายพันธุ์เซาท์แอฟริกา  ศบค.ก็เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์โรคในประเทศต่างๆอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศเราก็มีสถานที่กักกันตัวไว้ และมีมาตรการ ดูแลอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ดีน่าจะมีการทบทวนระยะเวลาในการกักตัวให้นานขึ้น จากเดิม14 วันอาจจะต้องเพิ่มเป็น 21 วัน  โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่เดินทางมาจากแอฟริกา เพื่อสกัดกั้นและควบคุมโรคไม่ให้เข้ามาในประเทศไทย
 

"ประเทศไทยต้องมีการคัดกรองอย่างเข้มข้นที่ด่าน เพื่อนำคนที่เข้ามาจากต่างประเทศเข้าสู่ระบบการกักตัวอย่างเป็นระบบ และอาจจะมีการพิจารณาปรับมาตรการกักตัวเพิ่มจาก 14 วัน เป็น 21 วัน เหมือนกับที่ปรับการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากประเทศอังกฤษ เพราะถือเป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของวัคซีน" 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการฉีดวัคซีนในจังหวัดท่องเที่ยวหรือไม่ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ทางศบค.มีการวางแผนในการการกระจายวัคซีนอย่างรัดกุม และจะจัดให้เป็นระยะๆ โดยในระยะแรกวัคซีนจะมาในเดือนก.พ.-พ.ค.วัคซีนมีจำกัดจะฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ และในพื้นที่เสี่ยงก่อนระยะที่ 2 จะมาถึงเดือนมิ.ย.-ธ.ค.คาดว่าเพียงพอ ประชนในจังหวัดท่องเที่ยวได้ฉีดแน่นอน ซึ่งอยากเน้นย้ำว่าศบค.ให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว เพราะจะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นการกระจายวัคซีนเราไม่ได้พิจารณากลุ่มไหนก่อนหลัง เพราะการจัดเก็บวัคซีนมีความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคด้วย