ปรับรพ.สนามสภาอุตฯเป็น"ศูนย์ฉีดวัคซีนสมุทรสาคร"

06 มี.ค. 2564 | 04:04 น.
อัปเดตล่าสุด :06 มี.ค. 2564 | 11:29 น.

เตรียมปรับเป็น"ศูนย์ฉีดวัคซีนสมุทรสาคร" สภาอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ส่งมอบโรงพยาบาลสนาม ให้สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร ไว้ใช้งาน ถัดไปใช้เป็นที่กักตัวกลุ่มเสี่ยงสูง-แรงงานต่างด้าวเข้าใหม่

เตรียมปรับเป็น"ศูนย์ฉีดวัคซีน" สภาอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ส่งมอบโรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 10 เชิงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน ให้สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)สมุทรสาคร ใช้ในภารกิจสู้เชื้อโควิด-19 ต่อไปอาจใช้เป็นที่กักตัวกลุ่มเสี่ยงสูง-แรงงานต่างด้าวเข้าใหม่ก่อนเข้าโรงงาน

นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรม(ส.อ.ท.)จังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผย  “ฐานเศรษฐกิจ”  ว่า  การจัดตั้งศูนย์ห่วงใยคนสาคร แห่งที่ 10 หรือโรงพยาบาลสนาม  ของสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เนื้อที่ 49  ไร่ ที่บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน  ถนนพระราม  2  จะแล้วเสร็จและทำการเปิด พร้อมส่งมอบให้กับทางจังหวัดสมุทรสาครได้ในวันที่  8  มีนาคม  2564  โดยจะมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาเป็นประธานในการรับมอบ  

นายอภิสิทธิ์ เตชะนิธิสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรม(ส.อ.ท.)จังหวัดสมุทรสาคร

ทั้งนี้ อาคารชุดแรกก่อสร้างด้วยเงินประมาณ  12  ล้านบาท  ที่ผู้ประกอบการฯ ลงขันร่วมสมทบการดำเนินการ ภายใต้การดูแลของมูลนิธิพัฒนาอุตสาหกรรม  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สามารถตั้งเตียงผู้ป่วยได้ขนาดประมาณ  200  เตียงขึ้นไป  และเมื่อก่อสร้างเต็มตามแผนงานที่มี  6  อาคารแล้ว  จะสามารถรองรับผู้ป่วยได้ประมาณ  1,000  เตียงขึ้นไป 
 

“ตามแผนเดิมโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จะใช้รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นคนงานของโรงานอุตสาหกรรม แต่ขณะนี้สถานการณ์ปรับเปลี่ยนคลี่คลายลง จึงจะเปลี่ยนเป็นมอบให้ทางสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร (สสจ.)เข้ามาดูแลเพื่อใช้ในภารกิจรับมือเชื้อโควิด-19 ต่อไป"     
  ภาคอุตสาหกรรมสมุทรสาครรวมใจฝ่าวิกฤตโควิด-19  

ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครร่วมตรวจความพร้อมรพ.สนามแห่งที่ 10 ก่อนส่งมอบสาธารณสุข

ประธานส.อ.ท. สมุทรสาคร เผยต่อว่า โดยคาดว่าในวันที่  15  มีนาคม  2564  จะใช้เป็นสถานที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19  ให้กับประชาชนชาวสมุทรสาครกลุ่มแรกที่ได้ลงทะเบียนไว้ เนื่องจากสถานที่อย่างกว้างขวาง สามารถจอดรถได้เป็นจำนวนมาก  ตัวอาคารมีหลังคาสูงโล่ง  ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ  ทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้สะดวกไม่ร้อนอบอ้าว  
    หลังจากนั้นอาจใช้เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับพักตัวของผู้ป่วยกลุ่ม  HIGH  RISK  โดยจะเก็บอาคารโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ไว้ใช้งาน ในระยะเวลาไม่น้อยกว่า  1  ปี  และอาจใช้เป็น  Local Quarantine - สถานที่กักตัว  14 วันของแรงงานต่างด้าว ที่เพิ่งเดินทางเข้ามาในประเทศไทย  ก่อนที่จะส่งตัวเข้าสู่ระบบโรงงานอุตสาหกรรมต่อไป
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า  สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19  ในประเทศไทยและจังหวัดสมุทรสาครยังไม่สามารถที่จะไว้วางใจได้  และยังคงไม่สามารถเข้าสู่ระยะปลอดเชื้อได้  100%  ในช่วงเวลาอันใกล้  หรือ 1-2  ปีนี้  โดยดูจากอัตราผู้ติดเชื้อที่ยังมีจำนวนมากในพื้นที่ทั่วไป และในโรงงานอุตสาหกรรม  อีกทั้งเชื้อโควิด-19 สามารถติดต่อกันได้ง่าย  จึงจำเป็นที่จะต้องแยกกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วยกลุ่มนี้ออกมาจากผู้ป่วยทั่วไปที่อยู่ในโรงพยาบาล       
 

นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) สมุทรสาคร

ด้านนายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.) สมุทรสาคร  ได้เปิดเผยว่า เมื่อทางสำนักงานสาธารณสุขฯได้รับมอบโรงพยาบาลสนามแห่งนี้มาแล้ว  ก็จะดูสถานการณ์ว่า  ควรนำมาปรับใช้งานอย่างไร  โดยคาดว่าถ้าขยายการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนวันละ  200  คน  สถานที่ภายในโรงพยาบาลสมุทรสาครอาจะไม่เพียงพอ  จึงจำเป็นที่จะต้องขยายหน่วยบริการ  ออกไปตามโรงพยาบาลสนามที่เป็นศูนย์ฯต่าง ๆ  ทั้งยังอาจใช้เป็นที่พักของผู้ป่วยกลุ่ม  HIGH  RISK  หรือกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข  หรือกลุ่มผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวซึ่งมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ   ที่อาจจะมีความรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้  ทั้งผู้ป่วยกลุ่มนี้ หลังฉีดวัคซีนแล้วก็มีความจำเป็นที่จะต้องพักเฝ้าสังเกตอาการอย่างน้อย  30  นาทีขึ้นไป

“ส่วนในอนาคตก็อาจมีความจำเป็นที่จะนำผู้ป่วยโรคโควิด-19  มาเข้าพัก  หรือเป็นที่กักตัว  14  วัน  ก่อนเข้าทำงาน  สำหรับแรงงานต่างด้าวรายใหม่ที่เพิ่งเข้ามาในประเทศไทย”      
 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง