จุดความร้อนประเทศไทยลดลง 35% เร่งควบคุมการเผาข้ามแดน

22 มี.ค. 2564 | 08:34 น.

ศกพ. แถลงสถานการณ์ คุณภาพ อากาศ วันที่22 มีนาคม2564 จุดความร้อนประเทศไทยลดลง 35% เร่งควบคุมการเผาข้ามแดน

นางสาวพิมพิกา โพธิสาโร รองโฆษกศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) แถลงรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศประจำวันที่ 22 มีนาคม 2564 เวลา 07:00 น ปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานในจังหวัดเชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา เชียงใหม่ น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก และ จ.อุบลราชธานีผลการตรวจวัด PM2.5 แยกตามรายภูมิภาค สรุปได้ดังนี้ 

ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 36 - 177 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง พบสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานรวม 15 พื้นที่ และอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ 2 พื้นที่ พบปริมาณฝุ่นละอองสูงสุดที่ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรวจวัดได้ 177 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อย่างไรก็ตาม พื้นที่ภาคเหนือยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเริ่มพบแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจุดความร้อนเล็กน้อย โดยในวันที่ 21 มี.ค. 2564 พบจุดความร้อนรวมใน 17 จังหวัดภาคเหนือ 1,063 จุด สูงสุดที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เพชรบูรณ์ แพร่ และ ลำปาง

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 19 - 56 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ภาคกลางและภาคตะวันตก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 12 - 40 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 11 - 28 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 10 - 31 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 19 - 40 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

 

อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมของปีนี้ ผลของความพยายามร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้จำนวนจุดความร้อนสะสมของไทยในปีนี้ลดลง 35% และ ค่าฝุ่นละอองสูงสุดลดลง 10% จากปีที่แล้ว

 

 

จุดความร้อนประเทศไทยลดลง 35% เร่งควบคุมการเผาข้ามแดน

 

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายผลกระทบของสภาพอากาศต่อการสะสมของฝุ่นละออง ในวันที่ 22-28 มีนาคม 2564  ลมที่พัดปกคลุมมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีแนวโน้มการสะสมฝุ่นละอองน้อยลง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 22 - 24 มีนาคม 2564 และหลังจากนั้นการสะสมฝุ่นละอองจะมีมากขึ้น สำหรับภาคใต้มีลมพัด ปกคลุมต่อเนื่องและมีฝนตกบางพื้นที่ ทำให้การสะสมฝุ่นละอองมีน้อยตลอดช่วง

โดยในช่วง 23 วันต่อจากนี้ พื้นที่ภาคเหนือจะได้รับอิทธิพลจาก ความกดอากาศสูง มวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ประกอบกับพื้นที่ภาคเหนือมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ ซึ่งในช่วงนี้อากาศยกตัวได้ดี แนวโน้มการสะสมของฝุ่นละอองลดลง

จุดความร้อนประเทศไทยลดลง 35% เร่งควบคุมการเผาข้ามแดน

ศกพ. ขอให้ทุกจังหวัดดำเนินการดังต่อไปนี้

1. ควบคุมและดับไฟป่า และควบคุมการเผาในที่โล่ง

2. บังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเผาในที่โล่งอย่างเด็ดขาด

3. ระดมสรรพกำลังเพื่อเพิ่มการลาดตระเวน เฝ้าระวัง และดับไฟ

4. เร่งลดเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าโดยการชิงเก็บ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์เศษวัสดุการเกษตรเพื่อลดการเผาในพื้นที่เกษตร

5. เตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข จัดส่งเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่ให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องกับประชาชน

เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย

6. เร่งสื่อสารสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน พิจารณาจัดแถลงข่าวสถานการณ์และผลการดำเนินงานให้ประชาชนรับทราบ

7. กรมควบคุมมลพิษ กองทัพภาคที่ 3 และจังหวัดชายแดน เร่งรัดประสาน ขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ลดและควบคุมการเผาในที่โล่ง ทั้งในระดับอาเซียนและระดับชายแดน เพื่อลดผลกระทบจากหมอกควันข้ามแดน

จุดความร้อนประเทศไทยลดลง 35% เร่งควบคุมการเผาข้ามแดน

 

 

 

ทั้งนี้ จากแนวโน้มของสถานการณ์จุดความร้อนในภูมิภาคแม่โขงที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กปกคลุมในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย รมว.ทส. ได้สั่งการให้ ทส. ประสานเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิด กรมควบคุมมลพิษในฐานะหน่วยงานประสานหลัก ได้ดำเนินการจัดทำรายงานไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียน ผ่านแบบฟอร์มของ ASEAN SOP เพื่อขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านในการลดการเผาในที่โล่ง และเร่งการดับไฟ เน้นย้ำประเทศในภูมิภาคแม่โขงให้ร่วมกันดำเนินมาตรการป้องกัน

แก้ไขปัญหาการเผาในที่โล่งอย่างเข้มงวดเพื่อลดจุดความร้อนในภูมิภาค รวมถึงกำลังดำเนินการเพื่อจัดส่งจดหมายอย่างเป็นทางการไปยังสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อเน้นย้ำในการขอความร่วมมืองประเทศเมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา ในการลดหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคแม่โขงโดยเร็ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

จุดความร้อนประเทศไทยลดลง 35% เร่งควบคุมการเผาข้ามแดน

นางสาวพิมพิกา กล่าวว่า ศกพ. ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนงดการเผาในที่โล่งทุกประเภท หากจอดรถยนต์ขอความกรุณาดับเครื่องยนต์ และขอให้หมั่นบำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้ก่อควันดำ เพื่อบรรเทาการสะสมของฝุ่นละอองที่เพิ่มสูงขึ้น และเพื่ออากาศที่ดีของพวกเราทุกคน และขอให้ท่านดูแลสุขภาพสวมใส่หน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ป้องกันตัวเองเมื่อออกนอกบ้าน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ด้วย

โดยสามารถเลือกดูข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศได้ทั้งแบบค่าเฉลี่ยรายชั่วโมง และแบบค่าเฉลี่ยราย 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ bangkokairquality.com หรือทางแอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK และติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์คุณภาพอากาศผ่านทาง Facebook Fanpage “ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.)นางสาวพิมพิกา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง