จากกรณีที่ กระทระทรวงการคลัง ขยายลงทะเบียนสำหรับกลุ่มพิเศษไม่มีสมาร์ทโฟน ใน โครงการเราชนะ บนเว็บไซต์ www.เราชนะ.com เมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) เป็นวันสุดท้าย ซึ่งกระทรวงการคลัง ขยายให้กลุ่มพิเศษไม่มีสามาร์ทโฟนลงทะเบียนเราชนะ รอบที่ 3 เป็นวันสุดท้ายนั้น โดยกลุ่มพิเศษในรอบที่ 3 จะทราบผลการคัดกรองคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน 2564 เป็นต้นไป โดยผู้ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติจะได้รับการโอนวงเงินสิทธิ์ จำนวน 7,000 บาท และสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ได้ที่ผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2564
“เราชนะ” รอบ2 รับรวดเดียว 7,000 บาท เริ่ม 22 เม.ย.
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (กลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟน) ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ (โครงการฯ) ระหว่างวันที่ 8 – 26 มีนาคม 2564 และตรวจสอบสถานะแล้ว พบว่าผ่านเกณฑ์การคัดกรองคุณสมบัติ จะสามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผ่านบัตรประจำตัวประชาชน โดยยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (Facial Recognition) ซึ่งจะสามารถใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2564 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มดังกล่าวจะได้รับวงเงินสิทธิ์จำนวน 7,000 บาท และ สามารถใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ผ่านผู้ประกอบการร้านค้าหรือผู้ให้บริการที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564
เราชนะ ใช้จ่าย 1.9 แสนล้าน
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงการคลังได้แถลงเพิ่มเติมถึงความคืบหน้าของโครงการฯ ณ วันที่ 9 เมษายน 2564 ดังนี้
1. ประชาชนกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 13.7 ล้านคน ได้มีการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 72,289 ล้านบาท
2.ประชาชนกลุ่มที่อยู่ในระบบฐานข้อมูลของแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง และกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.เราชนะ.com ที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติเบื้องต้นและยืนยันการใช้สิทธิ์ร่วมโครงการฯ แล้ว จำนวน 16.8 ล้านคน และมีการใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา จำนวน 109,289 ล้านบาท
3. ประชาชนกลุ่มผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติแล้ว จำนวน 2.3 ล้านคน มียอดใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์สะสมตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม 2564 เป็นต้นมา จำนวน 12,036 ล้านบาท ทำให้มีผู้ได้รับสิทธิ์ในโครงการฯ แล้ว รวมทั้งสิ้นจำนวน 32.8 ล้านคน คิดเป็นมูลค่าการใช้จ่ายหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทยแล้วกว่า 193,614 ล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้จ่ายผ่านผู้ประกอบการร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นที่มีแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ร้านค้าคนละครึ่งที่ตกลงยินยอมเข้าร่วมโครงการฯ รวมถึงผู้ประกอบการร้านค้าและผู้ให้บริการที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้นมากกว่า 1.3 ล้านกิจการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เราชนะ-ม33เรารักกัน หมดสิทธิคืนค่าตั๋ว บขส.ต้องทำอย่างไร เช็กที่นี่
“เราชนะ” กลุ่มเปราะบาง ผ่านคัดกรอง รับเงิน 7,000 บาท 9 เม.ย.นี้
“เราชนะ”กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน รีบลงทะเบียนภายใน 9 เม.ย.ก่อนถูกตัดสิทธิ์
www.เราชนะ.com กระทรวงการคลัง เผยยอดใช้จ่ายล่าสุด 1.9 แสนล้าน