รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า เท่าที่ตามมา มีอยู่สามสิบกว่าประเทศที่เจอระลอกสามอยู่ ไม่ว่าจะช่วงต้น พีค หรือปลาย
เงื่อนเวลาสำคัญคือการที่เริ่มมีจำนวนติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกินสองสัปดาห์ มักจะนำไปสู่ระลอกสามที่ชัดเจน ยิ่งหากจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงมากเท่าไหร่ โอกาสกดได้จะยากขึ้นเป็นเงาตามตัว สถานการณ์ของไทยเราตอนนี้ หนักกว่าที่เราเคยเผชิญมา
กุญแจที่จะไขปัญหานี้ได้นั้นคือ
1.การที่เราทุกคน"รับรู้ร่วมกัน"ว่าระบาดครั้งนี้รุนแรง
2.การ"ร่วมแรงร่วมใจร่วมมือกัน"ในการต่อสู้ ยับยั้งการระบาดนี้ให้ได้
3.การที่ทำให้เรารู้"เป้าหมายร่วม" และทราบความคืบหน้าทุกวันอย่างใกล้ชิด
รูปธรรมที่เราทุกคนจะทำได้ในสองสัปดาห์ถัดจากนี้คือ
หนึ่ง "ปกป้องดูแลตนเองและครอบครัวอย่างเต็มที่" ทำอย่างไรก็ได้ที่จะไม่เสี่ยง และไม่ติดเชื้อมา และแพร่เชื้อให้คนอื่นทั้งในครอบครัว ที่ทำงาน หรือระหว่างการใช้ชีวิตประจำวัน
สอง "ปกป้องถิ่นฐานบ้านเกิด จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้านของตนเอง ไม่ให้ระบาด" ช่วยกันตรวจตรา คัดกรองคนเข้าออกพื้นที่ ลดละเลี่ยงกิจกรรมเสี่ยงต่อการแพร่หรือรับเชื้อ ใครไม่สบายหรือประเมินว่ามีความเสี่ยงควรหาทางไปตรวจรักษา อย่าให้หลุด
สาม "ช่วยเหลือ เกื้อกูล แบ่งปัน ทรัพยากรที่เราพอมี ให้แก่คนที่ลำบากกว่าเราหรือที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดในพื้นที่" ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำ ที่พักพิง เครื่องนุ่งห่ม หยูกยา อุปกรณ์ป้องกันตัว หรือแม้แต่งานเล็กๆ น้อยๆ ให้พอประทังชีพได้
สี่ "ดูแลเด็กๆ ลูกหลาน ทั้งด้านกาย ใจ สังคม และการเรียนรู้" เพราะระบาดนี้ต่อเนื่องมานาน อาจส่งผลต่อเด็กๆ ไม่มากก็น้อย ควรช่วยสนับสนุนดูแลให้ผ่านพ้นไปด้วยกัน
ด้วยรักและห่วงใยครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :