อย่างไรก็ตาม กระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งการรณรงค์ลดสร้างขยะ ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มต้องคิดหนักว่าจะลดการใช้ภาชนะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งได้อย่างไร
“โบบาแวร์” (BobaWare) เป็นผลงานการระดมความคิดของเหล่านักออกแบบในบริษัทสตาร์ทอัพจากสหรัฐอเมริกาที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมา ชื่อบริษัทซึ่งเป็นทั้งชื่อผลิตภัณฑ์มาจากคำว่า “โบบา” ชื่อเรียก “ไข่มุก” หรือลูกเจลลี่กลมๆ เคี้ยวหนึบหนับทำจากแป้งมันสำปะหลังในเครื่องดื่มชานมไข่มุกนั่นเอง
ทีมนักออกแบบใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงได้ภาชนะต้นแบบออกมา เป็นแก้วเครื่องดื่มสำหรับใส่ชานมไข่มุกโดยเฉพาะเพราะมาพร้อมกับหลอดขนาดใหญ่สำหรับดูดไข่มุก ตัวภาชนะทำจากพลาสติก 2 ชั้นที่ปราศจาก BPA หรือ Bisphenol A ซึ่งเป็นสารพิษ ภาชนะชั้นในนอกจากสามารถกักเก็บความเย็น ยังได้รับการออกแบบให้ส่วนก้นภาชนะมีความโค้งเป็นแอ่งกระทะ เพื่อให้หลอดสามารถดูดเครื่องดื่มในภาชนะได้อย่างหมดจดและง่ายดาย
มาร์คัส จาจาดี ผู้ร่วมก่อตั้ง “โบบาแวร์” เผยว่า ภาชนะดังกล่าวไม่ได้มีนวัตกรรมที่เลิศล้ำอะไร แต่จุดเด่นนั้นอยู่ที่แนวคิดอนุรักษ์ ที่มุ่งลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งต่างหาก เขาคาดหวังว่าถ้าร้านชานมไข่มุกนำไปใช้ก็จะได้ทำโปรโมชั่นให้ลูกค้าที่นำภาชนะดังกล่าวมาซื้อชานมไข่มุก ได้ส่วนลดพิเศษ กระตุ้นให้มีการนำมาใช้แล้วใช้อีก ตรงตามหลักการของเศรษฐกิจหมุนเวียนที่มุ่งใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,672 หน้า 24 วันที่ 22 - 24 เมษายน พ.ศ. 2564