ทหารไทย-เมียนมา"เคลียร์"แล้ว"ยิงเรือในสาละวิน"

23 เม.ย. 2564 | 08:30 น.

การสัญจรทางเรือในแม่น้ำสาละวินชะงัก ฐานทหารเมียนมาออกคำสั่งให้เรือทุกลำแวะให้ตรวจสอบก่อน จนเกิดเหตุยิงเรือชาวบ้านแม่สามแลบและเรือตชด.มาแล้ว ทหาร-ฝ่ายปกครองในพื้นที่เร่งประสานความเข้าใจก่อนบานปลาย

การสัญจรทางเรือในแม่น้ำสาละวินชะงัก ฐานทหารเมียนมาออกคำสั่งให้เรือทุกลำแวะให้ตรวจสอบก่อน จนเกิดเหตุยิงเรือชาวบ้านแม่สามแลบและเรือตชด.มาแล้ว ทหาร-ฝ่ายปกครองในพื้นที่เร่งประสานความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายเมียนมาแล้วก่อนบานปลาย

ทหารไทย-เมียนมาประสานความเข้าใจกรณีการเดินเรือสัญจรในแม่น้ำสาละวิน หลังเหตุทหารเมียนมายิงเรือชาวบ้าน-ตชด.
 บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา ริมแม่น้ำสาละวิน จากกรณีที่ทหารรัฐบาลมียนมา ยิงเรือตำรวจตระเวนชายแดนไทย (ตชด.ไทย) ตามที่ได้ปรากฏข่าวตามสื่อ และสื่อโซเซียล ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านความมั่นคงและหน่วยงานปกครองไทย ได้ทำการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่าข่าวดังกล่าวมีข้อเท็จจริง  ซึ่งเจ้าหน้าที่ไทยได้มีการตรวจสอบกับทางหน่วยงานผู้ปฎิบัติตามแนวชายแดน  ทราบข้อเท็จจริงได้ว่า การยิงปืนของทหารเมียนมานั้น เป็นเพียงการยิงข่มขู่ เพื่อไม่ให้เรือ ตชด.ไทย เข้าใกล้ฐานทหารเมียนมา เนื่องจากเกรงการโจมตีจากกองกำลังกะเหรี่ยง KNLA  
ลำน้ำสาละวินที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมาในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน เป็นเส้นทางสัญจรของชาวบ้านในพื้นที่     

ทั้งนี้ ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 (ฉก.ร.7) ได้ประสานทหารเมียนมาเพื่อทำความเข้าใจ และสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกัน รวมทั้งได้ให้ข้อเท็จจริงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว 
    

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ได้มีเสียงปืนจากฐานทหารเมียนมาริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน   จากการที่ทหารเมียนมาประจำฐานตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้ใช้อาวุธปืนยิงสะกัดเรือ ที่กำลังจะลำเลียงขนส่งของบรรเทาทุกข์ เพื่อช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเหรี่ยง โดยเสียงปืนได้ดังขึ้นระหว่างที่เรือฝ่ายไทยและเรือชาวบ้านอีกลำหนึ่งกำลังวิ่งแล่นในแม่น้ำสาละวิน 
    

ขณะที่เรือ ต.ช.ด.ไทย ได้ติดธงชาติไทย 2 ผืนตามตกลงร่วม  โดยทหารเมียนม่าได้ยิงปืนใส่เรือไทย  2 นัด   จากนั้นชาวบ้านเห็นเรือ ต.ช.ด.ไทยเข้าไปจอดที่ฐานดังกล่าวอยู่ราวครึ่งชั่วโมง  โดยไม่ทราบว่ามีการเจรจากันว่าเป็นอย่างไรบ้าง   
    

เหตุการณ์ยิงเรือที่เกิดขึ้นเกิดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีเรือไทยแล่นออกจากแม่สามแลบ และผ่านบ้านท่าตาฝั่งอีก  ซึ่งหมายความว่าการขนส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ไปให้แก่ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นในรัฐกะเหรี่ยงต้องยากลำบาก ล่าช้าไม่ทันกับความต้องการ และสิ้นเปลืองขึ้นมาก  และมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปะทะครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้ง ที่ริมชายแดนแม่น้ำสาละวิน  ระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยง 

ชาวกะเหรี่ยงหนีภัยสุ้หลบเมื่อทหารเมียนมาเปิดศึกกองกำลังกะเหรี่ยงจนทะลักข้ามสาละวินเข้าไทยเพื่อความปลอดภัย