กระหึ่่ม"พิภู-ชาธิป" ฟอร์มทีมชิง"ประธานหอฯสมุทรสาคร"คนใหม่ กลางวงประชุมใหญ่ 27 เม.ย.นี้ หลังเกิดกระแสต่าง"รุ่นเก่า-รุ่นใหม่"ในหมู่สมาชิกชั้นนำ จับตาการใช้ระเบียบ-ข้อบังคับหอการค้าเป็นประเด็นต่อสู้
คณะกรรมการหอการค้าจังหวัดสมุทรสาคร นัดจัดการประชุมใหญ่สมาชิกสามัญประจำปีฯ ขึ้นในวันที่ 27 เมษายน 2564 เวลา 13.30 น. ณ ภัตตาคารนิวรสทิพย์ และห้องประชุมตลาดทะเลไทย โดยมีวาระสำคัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ และเลือกประธานหอการค้าคนใหม่ ต่อจากนางอำไพ หาญไกรวิไลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครคนปัจจุบัน ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ที่ผ่านมาแทบทุกสมัยการเลือกกรรมการและประธานกรรมการหอการค้าชุดใหม่ มักเป็นการฟอร์มทีมกันจากคณะกรรมการชุดเดิมที่บริหารอยู่ เพื่อผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาบริหารองค์กร แต่ครั้งนี้มีกระแสข่าวว่า การประชุมใหญ่สมาชิกสามัญประจำปีนี้ ซึ่งจะมีการเลือกกรรมการบริหารและประธานกรรมการหอการค้าคนใหม่ อาจเกิดคลื่นใต้น้ำ หรือการฟอร์มทีมแข่งขันกันเพื่อให้ได้รับเลือกจากสมาชิก
เนื่องจากเวลานี้ในหมู่สมาชิกชั้นนำของหอการค้าสมุทรสาคร มีความคิดแตกเป็น 2 กลุ่ม ที่คาดว่าต่างฝ่ายจะฟอร์มทีมเพื่อเสนอเข้ารับเลือกเป็นกรรมการหอฯชุดใหม่ ประกอบด้วย
1.กลุ่มนายพิภู สุโชคชัยกุล ซึ่งเป็นอดีตรองประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครหลายสมัย รวมทั้งเป็นอดีตรองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และอดีตประธานสภาเทศบาลตำบลแคราย ล่าสุดเป็นประธานกิตติมศักดิ์ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสมุรสาคร และ
2.กลุ่มนายชาธิป ตั้งกุลไพศาล รองประธานหอการค้าสมุทรสาคร คนที่ 1 ชุดปัจจุบัน และเป็นอดีตประธานกลุ่ม YEC ที่รวมกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของจังหวัดสมุทรสาคร
นายพิภู สุโชคชัยกุล เปิดเผยว่า พร้อมจะไปช่วยงานของหอการค้าฯ ตลอดระยะ 1-2 วาระ โดยตนจะไปร่วมประชุมใหญ่ฯ ในฐานะสมาชิก ซึ่งหากมีผู้เสนอความคิดเห็นและมีผู้เสนอให้ดำรงตำแหน่งประธานหอการค้าฯ ตนเองก็ยินดีรับ และจะพยายามสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันให้เกิดขึ้น ซึ่งในฐานะสมาชิกอาวุโส ตนก็น่าจะเป็นที่ยอมรับได้ของทุกฝ่าย โดยพร้อมจะเดินตามกฎระเบียบของหอการค้าไทย และยึดปณิธานหลักเพื่อให้เกิดความร่วมมือทั้งกับภาครัฐ เอกชน รวมถึงภาคประชาสังคมทุกฝ่าย โดยมีแนวทางที่หอการค้าจะต้องตั้งรับการเสริมกำลังด้านเศรษฐกิจ ในภาวะที่จังหวัดสมุทรสาครกำลังเผชิญวิกฤติจากโรคโควิด-19 อยู่ในขณะนี้
ด้านนายชาธิป ตั้งกุลไพศาล กล่าวว่า การเลือกประธานหอการค้าครั้งนี้ จะเริ่มจากการให้สมาชิกเลือกหรือรับรองกรรมการบริหารฯ ไม่น้อยกว่า 21 คน แต่ไม่เกิน 35 คน จากนั้นกรรมการบริหารที่ได้รับเลือกจะไปประชุมเลือกสรรหาตัวประธานกรรมการหอการค้าฯอีกชั้นหนึ่ง ไม่ใช่ให้สมาชิกมาโหวตเลือกประธานฯ โดยตรง ซึ่งทีมคณะกรรมการที่เตรียมไว้ให้สมาชิกรับรอง จะมีกรรมการเก่าอยู่ประมาณ 90% และมีกรรมการใหม่อยู่ประมาณ 10%
เนื่องจากระเบียบการควบคุมโรคติดต่อของจังหวัด กำหนดให้การจัดประชุมได้ไม่เกิน 50 คน การจัดประชุมใหญ่สมาชิกสามัญประจำปีคราวนี้ จึงจัดแยกเป็น 2 แห่งคือ ที่ภัตตาคารนิวรสทิพย์ และที่ห้องประชุมตลาดทะเลไทย รวมสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม 100 คน โดยจะมีการส่งสัญญาณถ่ายทอดการประชุมเชื่อมระหว่าง 2 แห่งนี้ ส่วนสมาชิกที่เกินจาก 100 คน ก็จะให้ทำการประชุมและร่วมโหวตรับรองมาทางระบบออนไลน์
นายชาธิป กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนเองได้ทำงานด้านยุทธศาสตร์กับทางจังหวัดสมุทรสาคร และได้ทำกิจกรรมด้านต่าง ๆ กับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม โดยประสบการณ์การทำงานจึงมีความพร้อม และวัฒนธรรมของหอการค้าทั่วประเทศที่ถือปฏิบัติกันมาก็คือ ผู้ที่ทำหน้าที่รองประธานฯ คนที่ 1 ก็จะมีการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้ามารับตำแหน่งประธานหอการค้าคนต่อไป ทั้งจากการที่ตนได้เข้าไปเป็นกรรมการของทางจังหวัดฯ เพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ร่วมกับทางสภาอุตสาหกรรมฯ ซึ่งต่อไปทั้งหอการค้าฯ และสภาอุตสาหกรรมฯ จะทำงานเป็นปึกแผ่นในนามของภาคเอกชนมากขึ้น
“โดยแผนที่ทางภาคเอกชน ได้เตรียมไว้รับมือด้านเศรษฐกิจในสถานการณ์โรคโควิด-19 ครั้งนี้ ได้แบ่งออกเป็น 3 ระยะคือ 1.ระยะฟื้นฟู 2.ระยะเยียวยา 3.ระยะเติบโต โดยจะเน้นไปที่กลุ่มเกษตรกร SME และ OTOP อันเป็นฐานรากของจังหวัดฯ เป็นหลัก ส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ก็คงขับเคลื่อนในด้านสนับสนุนปัจจัยพื้นฐานของจังหวัด ที่จะเอื้อต่อสภาพธุรกิจและสภาพการประกอบกิจการของผู้ประกอบการรายใหญ่"
แหล่งข่าวจากหอการค้าจังหวัดสมุทรสาครเล่าว่า เวลานี้ในหอการค้าสมุทรสาครแตกเป็นกลุ่มรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ ทั้งที่กำลังเผชิญความท้าทายจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่ต้องร่วมใจกันฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างหนัก จึงต้องการผู้นำที่มีวุฒิภาวะ มีวัยวุฒิ มีทักษะทางธุรกิจการค้า เพื่อใช้ข้อมูล-ความรู้และประสบการณ์ ในการกอบกู้เศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสาคร ให้พ้นวิกฤติจากโรคโควิด 19 โดยเร็ว
อีกทั้งคณะกรรมการหอการค้าฯ จะต้องทำหน้าที่แทนนิติบุคคล จึงต้องทำงานภายใต้กฎระเบียบให้ถูกต้อง ทั้งในฝ่ายงานตามโครงสร้างของหอการค้าจังหวัด หรือโครงการภายใต้กำกับดูแล เช่น โครงการชมรมผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ซึ่งมีระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ตามที่กำหนดไว้ เช่น การเปิดบัญชีเงินฝากต้องใช้ชื่อบัญชีว่า “หอการค้าจังหวัดสมุทรสาครเพื่อกิจการ YEC" และการเลือกคณะกรรมการ YEC ต้องทำตามข้อบังคับของหอการค้าฯ ซึ่งจะต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่า 21 คน ต้องรายงานกิจกรรมในทุกเดือน เพื่อขออนุมัติและขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการหอการค้าฯ ทุกครั้ง ทั้งนี้ เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้มีจิตสำนึกปราศจากการคอรัปชั่น ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของหอการค้าไทย โดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจวิกฤติจากโรคโควิด-19 ยิ่งจำเป็นที่ต้องมีผู้นำที่มีทักษะในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง และจำเป็นต้องตรวจสอบการดำเนินงานที่ผ่านมา ว่าเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับฯ หรือไม่