รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยมีข้อความว่า
การประชุมร่วมระหว่างผู้ว่าและทีม กทม.กับผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ตัวแทนสมาคมวิชาชีพ คณบดีหรือผู้แทนจากคณะแพทย์ในกทม. และผู้แทนราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เรื่องการเตรียมการรับมือสถานการณ์โควิด-19 (Covid-19)ในกทม. มีมติร่วมกัน ดังนี้
1. ทุกฝ่ายจะร่วมกันเร่งค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชนเสี่ยงเพื่อแยกผู้ป่วยออกจากชุมชนให้ได้เร็วและมากที่สุด
2. ผู้ป่วยจะถูกรีบนำเข้าระบบการคัดแยกตามระดับความรุนแรง
3. ผู้ป่วยระดับสีเหลืองและสีแดงจะถูกนำเข้ารักษาในโรงพยาบาลหลัก
4. ผู้ป่วยสีเขียวจะถูกนำเข้ารักษาในโรงพยาบาลสนาม โดยจะคัดเลือกผู้ป่วยส่วนหนึ่งที่ผลการตรวจน่าจะมีเชื้อไวรัสมาก และโรคอาจลุกลามได้ ให้เข้าสู่การรักษาด้วยยาฟาวิพิราเวียร์นาน 5 วัน โดยต้องได้รับการดูแลรักษาอื่นตามมาตรฐาน ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ป่วยตามหลักจริยธรรม ต้องมีการเฝ้าระวังผลข้างเคียง และต้องมีการรวบรวมผลของการให้ยา เพื่อนำผลไปใช้ปรับแนวทางการรักษาของประเทศภายหลัง และจะมีการติดตามผลกระทบต่อการดื้อยา อีกทั้งยาที่นำมาใช้ในโครงการนี้จะต้องไม่มีผลกระทบต่อสต๊อกยากลางของประเทศหรือมีให้น้อยที่สุด
5. จะขยายศักยภาพเพิ่มเติมของโรงพยาบาลสนามในความดูแลของกทม.ให้สามารถดูแลผู้ป่วยระดับสีเหลือง (เช่น ให้ออกซิเจน ให้น้ำเกลือ ฉีดยาเข้ากล้ามหรือเข้าเส้น ฯลฯ) ในกรณี
5.1 อยู่ในรพ.สนามตอนแรกเป็นสีเขียวแล้วแย่ลง และอยู่ในระหว่างการรอย้ายเข้ารพ.หลัก
5.2 เตียงรับผป.สีเหลืองในรพ.หลักหมุนเวียนใช้งานไม่ทัน
5.3 ผป.สีเหลืองหรือสีแดงจากรพ.หลักที่อาการทุเลา แต่ต้องการการรักษาบางชนิดที่ไม่ซับซ้อนก่อนกลับบ้านตามกำหนด
ทั้งนี้ความหมายของศักยภาพในโรงพยาบาลสนามที่เพิ่มขึ้นนี้ตรงกับนิยามไอซียูสนามของทีมกทม. แต่ไม่เทียบเท่าไอซียูสนามที่ใช้ดูแลผู้ป่วยโควิดรุนแรง/วิกฤต ตามนิยามของสมาคมวิชาชีพ
6. จะเร่งระดมฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในชุมชนเสี่ยงทั้งหมดในกทม.เพื่อป้องกันการระบาดในปัจจุบันไม่ให้ขยายวงกว้าง และป้องกันการระบาดต่อไปในอนาคต
#ร่วมกันควบคุมสถานการณ์โควิดในกรุงเทพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :