ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย 2 ราย เดินทางมาจากปากีสถาน

10 พ.ค. 2564 | 07:00 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ค. 2564 | 06:43 น.

ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย 2 ราย เดินทางมาจากปากีสถาน เดินทางมาตามระบบ จึงเข้าสถานกักตัวใน State Quarantine

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน(10 พ.ค.64)ช่วงหนึ่งถึงผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เดินทางมาจากต่างประเทศว่า มีผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 8 ราย โดยมาจากอินเดีย 1 ราย เดินทางมาจากอินเดียตั้งแต่ 17 เมษายน มีการตรวจพบเชื้อวันที่ 21 เมษายน เราพยายามเฝ้าระวังการเดินทางมาจากประเทศอินเดีย ทางกรมควบคุมโรคพยายามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย 2 ราย เดินทางมาจากปากีสถาน

ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า จากรายงานพบผู้ที่เดินทางมาจากปากีสถานติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย 2 ราย โดยกรมควบคุมโรค ระบุผู้ติดเชื้อเป็นหญิงไทย 1 ราย อายุ 42 ปี (ตั้งครรภ์ 25 สัปดาห์) เดินทางพร้อมบุตรชาย 3 คนจากปากีสถานกลับมาไทยโดยแวะพักเครื่องที่ดูไบ ตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย.

ผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวเดินทางมาตามระบบ จึงเข้าสถานกักตัวใน State Quarantine โดยพักอยู่กับบุตรชายวัย 4 ปี ส่วนบุตรชายอายุ 6 ปี และ 8 ปี อยู่อีกห้อง ซึ่งในวันที่ 26 เม.ย.ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งที่ 1 ผลออกมาว่าหญิงรายนี้และบุตรชายอายุ 4 ปี ผลเป็นบวก เป็นการพบเชื้อในสถานที่กักตัว เนื่องจากเดินทางเข้ามาตามระบบ ส่วนบุตรชายอีก 2 คนผลเป็นลบ

ซึ่งทางศูนย์โรคอุบัติใหม่ด้านคลีนิค โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ยืนยันว่า เป็นผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์อินเดีย 

ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย 2 ราย เดินทางมาจากปากีสถาน

ส่วนการเดินทางจากอินเดียในขณะนี้ ถ้าเป็นเป็นต่างชาติจะไม่มีแล้ว เที่ยวบินจากอินเดีย ตอนนี้เป็นการพาคนไทยกลับบ้าน วันที่ 8 พ.ค. มีการเดินทางจากประเทศอินเดียถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นค้นไทยทั้งหมด 74 ราย ทุกคนได้รับการดูแลใน State quarantine และ Alternative state quarantine ที่รัฐจัดให้ทั้งหมด

ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย 2 ราย เดินทางมาจากปากีสถาน

ที่ประชุม EOC กระทรวงสาธารณสุขมีความเป็นห่วงเรื่องของเชื้อกลายพันธุ์ทั้งที่เกิดขึ้นแล้ว และสายพันธุ์ที่อาจพัฒนากลายพันธุ์ในประเทศไทยด้วย และที่ประชุมได้กำชับให้กรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด และร่วมทำงานกับโรงเรียนแพทย์ กรมควบคุมโรค และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเฝ้าระวังสูงสุดในเรื่องของเชื้อกลายพันธุ์

ทั้งนี้ ทางศบค.ชุดเล็กเตรียมพิจารณาจะเพิ่มการชะลอการออกเอกสารเดินทางในอีกหลายประเทศ เนื่องจากการแพร่ระบาดของสายพันธุ์อินเดีย พบว่า มีการแพร่ระบาดไปยังประเทศปากีสถาน บังคลาเทศ เนปาล โดยขอให้รอติตตามประกาศจากกระทรวงต่างประเทศต่อไป

พบผู้ลักลอบเข้าเมือง 104 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า สิ่งที่ห่วงคือการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติ โดยในรอบ 14 ชั่วโมงมีการสกัดกั้นได้ 104 คนมาจากประเทศเมียนมา กัมพูชา และมาเลเซีย ขณะที่ตั้งแต่ 1-10 พ.ค.2564 มีการจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองได้ 1,120 คน

ศบค.จึงเน้นย้ำฝ่ายปกครองในการป้องกันการลักลอบเข้าประเทศเข้มเป็นพิเศษ อีกทั้งฝากถึงคนไทยที่จะกลับบ้านขอให้เข้าสู่ระบบที่ถูกต้อง มีมาตรฐานดูแลให้ปลอดภัยและไม่เป็นสาเหตุให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อ และขอให้ประชาชน ผู้นำชุมชนช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นการขนส่งแรงงานต่างด้าวขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย 2 ราย เดินทางมาจากปากีสถาน

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนคลัสเตอร์สำคัญในพื้นที่ กทม.ที่อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง ประกอบด้วย ซอยเพชรบุรี 5 ซอยเพชรบุรี 6 เขตราชเทวี และอาคารสำนักงานให้เช่า เขตยานนาวา และพบว่า มีผู้ติดเชื้อกระจายครบทั้ง 50 เขตในกทม. ซึ่งยังเน้นการตรวจเชิงรุกทั้งในพื้นที่เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย คลองเตย ปทุมวัน ดินแดง ลาดพร้าว ราชเทวี และคลัสเตอร์ใหม่ ทั้งห้วยขวาง จตุจักร วัฒนา วังทองหลาง

ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์อินเดีย 2 ราย เดินทางมาจากปากีสถาน

สำหรับผลการตรวจหาเชื้อกทม.ในวันที่ 9 พ.ค. นั้น พบผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและจากโรงพยาบาล 722 ราย และจากการคัดกรองเชิงรุก จำนวน 9,270 ราย พบผู้ติดเชื้อ 258 ราย

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวด้วยว่า แผนการตรวจหาเชื้อเชิงรุกในวันที่ 10-12 พ.ค.นี้ ในเขตคลองเตย แฟลตดินแดง ดุสิต และธูปเตมีย์ รวมถึงบ่อนไก่ ยังคงระดมตรวจอย่างต่อเนื่อง รวมๆแล้วทางกทม.จะตรวจประมาณ 10,000 รายต่อวัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง