ทหารขอพูดความจริง"ท่าขี้เหล็ก"ยันตรึงยาว"ชายแดน"

ผบ.ฉก.ม.3 ตั้งโต๊ะแถลง ข้อเท็จจริง"สถานบริการท่าขี้เหล็ก" เผยกลับมาเปิดก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถูกคุมเข้มทั้งจากสถานการณ์ด้านความมั่นคงภายใน และคุมเชื้อโควิด-ระบาด ยันไม่มีนักเล่นจากไทยข้ามฝั่งไป  ทหารวางกำลังตรึงยาวตลอดแนวชายแดน ไม่ได้ปล่อยเข้าออกเสรี 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อบ่ายวันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2564 ที่กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ค่ายเม็งรายมหาราช ถนนหน้าค่าย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย  พันเอกสัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง นัดหมายสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย แถลงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ต่อกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา และไทย-สปป.ลาว ด้านจังหวัดเชียงราย ในช่วงเวลาที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 
         

โดยพันเอก สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ชี้แจงการจัดแถลงข่าวในครั้งนี้ สืบเนื่องจากการที่สื่อมวลชนบางสำนัก นำเสนอข่าวการเปิดสถานบันเทิงในเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พื้นที่ตรงกันข้ามอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงรายนั้น ต้องการแจ้งข้อเท็จจริงของสถานการณ์และการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเป็นหลัก โดยไม่ได้แก้ตัวหรือไม่ได้กล่าวโทษผู้ใด แต่ต้องสร้างความเข้าใจเพื่อไม่ทำให้คนตื่นตระหนก และมีผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาของฝ่ายต่าง ๆ พร้อมกันด้วย 
        

สำหรับสถานบริการในเมืองท่าขี้เหล็กนั้นได้กลับมาเปิดตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมาแล้ว แต่อยู่ภายใต้เคอร์ฟิวที่กำหนด ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. ทำให้เดิมที่เคยมีนักท่องเที่ยว ที่เป็นนักธุรกิจจากเมืองย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ และในท่าขี้เหล็ก เข้าไปเที่ยว ก็พบว่าคนกลุ่มนี้ได้เดินทางกลับแล้ว จึงเหลือเพียงกลุ่มนักท่องเที่ยวในพื้นที่ ชาวไต ว้า จีน ฯลฯ และไม่พบว่ามีการข้ามไปท่องเที่ยวของคนจากฝั่งไทย แต่กลับมีการนำเสนอข่าวว่าเพิ่งเปิดในช่วงนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ซึ่งถือว่าไม่เป็นผลดีเลย 
    

รวมทั้งทราบว่า สถานบันเทิงเหล่านี้ก็ไม่ได้มีการรับพนักงานใหม่เข้าไปทำงานเลย เพราะประสบปัญหาเรื่องโควิด-19 ในประเทศไทย การประกาศห้ามออกนอกเคหะสถานหรือเคอร์ฟิวในท่าขี้เหล็กเอง รวมทั้งนักท่องเที่ยวก็ไม่สามารถเที่ยวกันได้อย่างเสรีตามปกติด้วย 
         

ปัจจุบันกำลังพล ที่เข้าประจำจุดอยู่ที่แนวชายแดนเฉพาะด้านอำเภอแม่สาย คาบเกี่ยวไปทางสามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน มีมากถึง 86 ชุด กำลังพลเกือบพันนายต้องไปทำหน้าที่ดูแลไม่ให้มีการลักลอบข้ามเข้าออกชายแดน และกระทำผิดกฎหมายอื่น  ซึ่งตนยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายมีระเบียบวินัย ไม่มีออกนอกลู่นอกทาง และปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด
         

ในส่วนของคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น หรือทีบีซี ฝ่ายเมียนมานั้นเขาก็ยินดีให้ความร่วมมือช่วยสกัดกั้น ทั้งการลักลอบข้ามเข้ามาฝั่งไทยและจากฝั่งไทยไปเมียนมา ทำให้การปฏิบัติงานง่ายขึ้นอีก 
        

ทางด้านพันเอก ปรีชา วงศ์สาขา เสนาธิการ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ได้แถลงสถานการณ์และการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่า นับตั้งแต่การเข้าไปบริหารประเทศของกองทัพเมียนมา ก็มีการประกาศภาวะฉุกเฉินในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 เป็นต้นมา เพราะมีการประท้วงตามเมืองใหญ่ ๆ ทั่วประเทศ แต่กรณีเมืองท่าขี้เหล็กนั้นสถานการณ์ไม่รุนแรง จนกระทั่งในปัจจุบันสถานการณ์เกือบเป็นปกติ และมีการค้าขายชายแดนกับประเทศไทยผ่านสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 อำเภอแม่สาย แต่ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่อนุญาตให้ผู้คนผ่านเข้าออกไปมาที่จุดข้ามชายแดนระหว่างกัน
         

สำหรับการปฏิบัติงานที่ชายแดน ทางเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันบูรณาการกับกำลังทั้งตำรวจและฝ่ายปกครอง รวมถึงการควบคุมทางยุทธการในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจตลอดแนว และเพิ่มความถี่ในการปฏิบัติงานทั้งกลางวันและกลางคืน มีการติดตั้งไฟส่องสว่าง รั้วลวดหนาม กล้องวงจรปิด อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน โดยกองทัพบกยังได้อนุมัติเพิ่มเติมกำลังพลอีกจำนวน 28 ชุดปฏิบัติการ และกองกำลังผาเมืองสั่งการให้เพิ่มอีก 8 ชุดปฏิบัติการ เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการสกัดกั้น ทำให้ห้วงที่ผ่านมาสามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวได้จำนวน 151 ราย ผู้นำพา 16 คน และส่งกลับบุคคลต่างด้าวออกไปแล้ว 51 คน
         

นอกจากนี้ ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ยังกล่าวอีกด้วยว่า นอกจากนี้ยังได้เพิ่มเติมสถานกาณ์ฝั่ง สปป.ลาว ด้วยว่าปัจจุบันเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงกันข้าม อำเภอเชียงแสน ที่ตั้งของโครงการคิงโรมัน มีการปิดการเข้าออก หรือล็อคดาวน์ ตั้งแต่วันที่ 6-20 พ.ค.นี้ และมีการระดมฉีดวัคซีนชิโนฟาร์มให้กับพนักงาน และชาวลาวทุกคนที่อยู่ภายในโครงการแล้ว 223 คน นอกจากนี้ ทราบว่ามีคนไทยทำงานในโครงการด้วย แต่ไม่ขอทำงานต่อและไม่ขอเดินทางกลับประเทศไทยแม้แต่รายเดียว
         

ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง กล่าวด้วยว่า ตนเคารพในการทำงานของทุกฝ่าย โดยเฉพาะสื่อมวลชนก็มีเสรีภาพในการนำเสนอข่าว ไม่มีใครไปบังคับได้ แต่ก็มีหน้าที่ในการนำเสนอข้อเท็จจริงโดยไม่บิดเบือน ตนจึงจัดแถลงข่าวด้วยเรื่องนี้เรื่องเดียว โดยไม่มีการแถลงผลงาน 6 เดือน เพื่อจะได้สร้างความเข้าใจไปยังฝ่ายต่าง ๆ และตนขอย้ำว่า ตั้งแต่เดือน เมษายน 2564 เป็นต้นมา ทหารที่ปฏิบัติงานอยู่ยังไม่ได้กลับไปพักที่บ้านภูทิลำเนาเลย จนถึงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ก็ยินดีเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมาย แต่ข่าวที่ออกมาเหมือนกับว่า ไม่มีทหารอยู่ที่ชายแดนและผู้คนเข้า-ออก ได้เหมือนเข้าร้านสะดวกซื้อ จึงขอให้แก้ข่าวใหม่ โดยยกอ้างเอาสิ่งที่ตนแถลงแล้วนี้ นำเสนอเป็นข้อเท็จจริงออกสู่สาธารณชน ให้ได้รับทราบแง่มุมรายละเอียด และข้อมูลตามข้อเท็จจริงที่ได้แถลงครั้งนี้ต่อไป

ที่มา สนง.ปชส.จังหวัดเชียงราย