สถานการณ์โควิดวันนี้ยังน่าเป็นห่วงโดยเฉพาะคลัสเตอร์เรือนจำ เนื่องจากความแออัดของสถานที่ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์เฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” โดยนำประสบการณ์ พร้อมข้อเสนอแนะฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำต่าง ๆ ทั่วประเทศ
เรือนจำเป็นสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อทางการหายใจทุกชนิด เนื่องจากผู้ต้องขังอยู่รวมกันอย่างแออัด สถานที่คับแคบ ไม่สามารถเว้นระยะห่าง อากาศถ่ายเทไม่ดี หน้าต่างประตูถูกปิดเกือบหมด
ผมเคยได้รับเชิญเข้าไปดูสภาพของเรือนจำกลางคลองเปรมเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วเนื่องจากมีการระบาดของวัณโรคซึ่งเป็นโรคติดต่อทางการหายใจ ได้เห็นสภาพของเรือนจำเอื้อต่อการระบาดของวัณโรค ปัจจุบันอุบัติการณ์วัณโรคในเรือนจำก็ยังสูงกว่าข้างนอกเรือนจำถึง 8 เท่า
ผมยังแปลกใจเมื่อโรคโควิด-19 แพร่ระบาดระลอกแรก มีผู้ต้องขังในไม่กี่เรือนจำ ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคมปีที่แล้วน้อยมากไม่ถึง 10 คน ทั้ง ๆ ที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ก็แพร่กระจายทางอากาศ ติดต่อกันทางการหายใจผ่านหยดละอองในระยะ 1-2 เมตร และละอองฝอยระยะไกลกว่านั้น มากกว่าทางการสัมผัสผ่านทางมือ
ถึงแม้ปัจจุบันเรือนจำจะมีมาตรการต่างๆที่เคยใช้ได้ผลกับการระบาดของโรคโควิด-19 ปีที่แล้ว แต่การระบาดรอบนี้จำนวนผู้ต้องขังใน 15 เรือนจำจากทั้งหมด 143 เรือนจำ ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นหลักหมื่น ที่เป็นเช่นนี้คงเป็นเพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดรอบนี้เป็นสายพันธุ์อังกฤษที่ทนต่ออากาศร้อน ชื้น ติดต่อกันง่าย และรุนแรงกว่าสายพันธุ์เดิมมาก
ผู้ต้องขังไทยมี 3.1 แสนคน จำนวนผู้ต้องขังติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง มาตรการตรวจค้นหาเชิงรุก แยกคนติดเชื้อออกมาอยู่ในโรงพยาบาลสนาม กักตัวคนใกล้ชิด งดญาติเยี่ยม ทุกคนใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ยังต้องทำต่อไป ในเวลาเดียวกัน เมื่อมีวัคซีน ต้องเร่งฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกให้ผู้ต้องขังทุกคน เข็ม 2 ยังไม่ต้องให้ ที่เลือกวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเพราะภูมิคุ้มกันหลังให้วัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มแรกขึ้นเร็วและสูงมาก แต่วัคซีนซิโนแวค ภูมิคุ้มกันจะขึ้นดีต้องหลังเข็ม 2 ถ้ามีวัคซีนเหลือพอ ค่อยให้วัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็ม 2 ในภายหลัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง