นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมผ่านแอปพลิเคชั่นซูม ร่วมกับอธิบดีกรมเจ้าท่าและผู้บริหารกรมเจ้าท่า เพื่อติดตามความก้าวหน้าการพัฒนายานพาหนะด้วยพลังงานไฟฟ้าตามนโยบายของรัฐบาลว่า ปัจจุบันกรมเจ้าท่าได้เริ่มให้บริการในเส้นทางเดินเรือไฟฟ้าเจ้าพระยาในเส้นทางต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตการเดินทางและรักษาสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการพัฒนา ดังนี้
สำหรับเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ท่าเรือพระนั่งเกล้าไปถึงท่าเรือสาทร ปัจจุบันให้บริการเรือไฟฟ้าและมีแผนเพิ่มเติมเรือที่ให้บริการ
1.เดือนเดือนพฤษภาคมนี้ มีเรือให้บริการ 8 ลำ ค่าโดยสาร 20 บาท/คน/เที่ยว
2.เดือนมิถุนายน เรือให้บริการ 12 ลำ ค่าโดยสาร 20 บ./คน/เที่ยว
3.เดือนกรกฎาคม เรือให้บริการ 23 ลำ ค่าโดยสาร 20 บ./คน/เที่ยว
4.เดือนสิงหาคม เรือให้บริการ 23 ลำ ค่าโดยสารตามที่กรมเจ้าท่ากำหนด และเรือท่องเที่ยวอีก 4 ลำ รวมทั้งสิ้น 27 ลำ
ส่วนเส้นทางคลองแสนแสบ ขณะนี้ผู้ประกอบการได้ต่อเรือเหล็กแล้วจำนวน 5 ลำ และอยู่ระหว่างการปรับปรุงเทคโนโลยีแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน คาดว่าสามารถเปิดให้บริการได้ภายในปลายปี 64 นอกจากนี้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้พัฒนาเส้นทางส่วนต่อขยายตั้งแต่ช่วงวัดศรีบุญเรือง-มีนบุรี ระยะทาง 11.5 ก.ม. ให้บริการด้วยเรือไฟฟ้าจำนวน 12 ลำ โดยจะเริ่มให้บริการภายในเดือนกันยายน 64 นี้
นายอธิรัฐ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันเร่งผลักดันโครงการ Taxi Boat : Feeder เพื่อเชื่อมการเดินทางในแม่น้ำเจ้าพระยากับคลองแขนงต่างๆ ของ กทม.ให้เป็นระบบเดียวกัน โดยนำเรือไฟฟ้าหรือTaxi Boat มาให้บริการรับส่งประชาชนในคลองแขนง เพื่อเป็นการบริการประชาชนในการเดินทางให้สะดวกยิ่งขึ้น ด้านเส้นทางคลองผดุงกรุงเกษม ปัจจุบันให้บริการเรือไฟฟ้า ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2564 เรือให้บริการ 7 ลำ ไม่จัดเก็บค่าโดยสาร และภายในเดือนมิถุนายน 2564 มีเรือให้บริการ 8 ลำ ไม่จัดเก็บค่าโดยสาร
ฟากเส้นทางคลองดำเนินสะดวกจ.ราชบุรี เป็นโครงการนำร่องเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว ปัจจุบันให้บริการจำนวน 3 ลำ และหากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น กรมเจ้าท่ามีแผนเพิ่มจำนวนเรือไฟฟ้า รวมทั้งการขอความร่วมมือประชาชนที่ใช้เรือในการสัญจร ให้ปรับเปลี่ยนจากระบบเครื่องยนต์เป็นระบบไฟฟ้าต่อไป ขณะที่เส้นทางคลองอัมพวา จ.สมุทรสงคราม มีแผนพัฒนาเรือไฟฟ้าเพื่อใช้ในการท่องเที่ยว เพื่อลดผลกระทบต่อผู้อยู่อาศัยริมฝั่งคลอง โดยเฉพาะเรื่องของเสียงและเป็นการรักษาสภาพแวดล้อม
ทั้งนี้ด้านการท่องเที่ยวทางทะเล ปัจจุบันให้บริการจำนวน 1 ลำ ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เส้นทางท่าเรือสิชลถึงท่าเรือเขาพรายดำ และมีแผนเพิ่มเติมอีก 1 ลำ ภายในสิ้นปี 2564 แต่หากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ดีขึ้น ผู้ประกอบการมีแผนเพิ่มจำนวนเรือให้บริการจำนวน 60 ลำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง