เพชรบุรีเข้ม ตรวจเชิงรุกคลัสเตอร์โรงงานแคลคอมพ์ สั่งพนักงานรายงานตัวด่วน

หลังเกิดการระบาดในโรงงาน บริษัท แคล-คอมพ์ อิเล็กทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยมีจุดแพร่เชื้อเกิดขึ้นในอาคารโรงงานที่ 9  ล่าสุดพบว่า มีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 2,000 ราย จนทำให้จังหวัดเพชรบุรี มีคำสั่งห้ามบุคคลเข้าหรือออกจากอาคารสถานที่ดังกล่าวเป็นการชั่วคราว ล่าสุดจังหวัดเพชรบุรี ได้ออกประกาศอีกฉบับเป็นการตรวจเชิงรุก

นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ในฐานะ ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ได้ลงนามคำสั่ง ประกาศคำสั่งจังหวัดเพชรบุรี ที่ 813/2564 เรื่อง ให้พนักงาน แรงงาน และบุคคล ของบริษัท แคล-คอมพ์ อิเล็กทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรค โดยมีใจความว่า

ตามที่จังหวัดเพชรบุรีได้มีคำสั่งจังหวัดเพชรบุรีที่ 790/2564 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2564 ห้ามบุคคลเข้าไปหรือออกจากอาคารสถานที่เป็นการชั่วคราวและจัดตั้งจุดตรวจคัดกรองในพื้นที่ตำบลสระพัง และตำบลบางเค็ม อ.เขาย้อย เพื่อตรวจคัดกรองพนักงาน แรงงาน และบุคคลของบริษัทนั้น

เพื่อเป็นการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ในพื้นที่อำเภอเขาย้อยและอำเภออื่นๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 และมาตรา 34 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และข้อ 7 (1)ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 1) ลงวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563

ข้อ 1 และ ข้อ 8 ของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 15) ลงวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรี ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 90/2564 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 จึงออกคำสั่งต่อไปนี้

1.ให้พนักงาน แรงงาน และบุคคลของบริษัท แคลคอมพ์ อิเล็กทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรค หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ณ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ตนพักอาศัย ภายใน 3 วัน (22 – 24 พฤษภาคม 2564) เพื่อรับการตรวจ คัดกรอง และรับการรักษา ทั้งนี้ ต้องดำเนินการตามแนวทางหรือหลักเกณฑ์ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีกำหนดอย่างเคร่งครัด

2. ให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ร่วมกับอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ดำเนินการจัดเตรียมสถานที่ในการตรวจ คัดกรองและการรักษา และดำเนินมาตรการตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด

3. ให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รายงานผลการดำเนินงานการตรวจคัดกรอง และการรักษา แต่ละวันให้อำเภอทราบ เพื่อแจ้งต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพชรบุรีต่อไป

หากผู้ใดฝ่าผืนหรือไม่ปฏิบัติตาม อาจเป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และอาจได้รับโทษตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ต้องระโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• “อลงกรณ์” ดัน “1ปิด1เปิด”เพชรบุรีสู้โควิด
•  
• คลัสเตอร์โรงงานแคลคอมพ์ ดันยอดผู้ติดเชื้อโควิดเพชรบุรีพุ่ง
• สธ.อัพเดท"โควิดสายพันธุ์อินเดีย"พบในไทยติดเชื้อแล้ว 36 ราย
• "โควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย"มีอะไรต้องกังวล หมอธีระวัฒน์ชี้ติดเชื้อง่าย-วัคซีนเอาไม่อยู่
• เปิด"ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ" 24 พ.ค.นี้ รับได้หมื่นคนต่อวัน