ในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.)มีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ทั้งการก่อสร้างรถไฟฟ้า ทางพิเศษ (ทางด่วน) โครงสร้างพื้นฐานรัฐตลอดจนโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ทั้งแนวราบและแนวสูงของภาคเอกชนจำนวนมาก ดังนั้นจึงปรากฎแคมป์ดังกล่าวกระจายไปทั่วเมืองตามสถานที่ตั้งของโครงการหรือพื้นที่ใกล้เคียงมีแรงงานทั้งไทยและต่างด้าวทะลุเกินครึ่งแสน หากรัฐปล่อยให้เขื่อนนี้แตก จะส่งผลเลวร้ายตามมาอย่างมากสอดคล้องกับการเปิดเผยตัวเลข ของนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.)ที่ระบุว่าพบแคมป์ก่อสร้างในเขตกทม.ทั้ง50เขตรวม 409 แห่ง คนงาน 62,169 คน เป็นคนไทย 26,134 คน และต่างด้าว 36,035 คน และมีการระบาดขยายวงในกลุ่มคนงานอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะแคมป์คนงานก่อสร้างแจ้งวัฒนะเขตหลักสี่ของบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน) หรือ ITD ที่มีแรงงานเกือบ1,700 คน ที่มีการระบาดรุนแรงและพบเชื้อไวรัสสายพันธุ์อินเดีย 36 คนและเกรงว่าการรกะจายตัวของเชื้อโควิด สายพันธุ์นี้ออกไปยังชุมรอบข้างไม่ต่ำกว่า 7-8ชุมชน จากคำบอกเล่าของชาวบ้านในชุมชนหลักสี่ พบว่า แรงงานบางส่วนออกมาใช้ชีวิตปกติจับจ่ายสินค้าอาหาร ตามตลาด ร้านชำร้านสะดวกซื้อ สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน เป็นอย่างมาก
ต่อเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยโดยย้ำว่า แคมป์คนงานก่อสร้างมีความสำคัญและนอกจากรัฐแล้ว ต้องได้รับความร่วมมืออย่างสูงจากผู้ประกอบการ ขณะ ITDออกมายอมรับว่าเป็นเหตุสุดวิสัยเพราะเฝ้าระวังอย่างดี โดยรับปากเพิ่มความเข้มข้นดูแลคนงานทุกแคมป์ต่อไป แต่เพื่อความไม่ประมาทวันที่23 พฤษภาคม 2564เป็นต้นไป พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่ากทม. โดยคณะกรรมการโรคติดต่อกทม.ยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในแคมป์คนงาน ตลอดจนพื้นที่เสี่ยงอย่างตลาด บริษัทที่มี call center ออกประกาศให้กลุ่มก้อนเหล่านี้ อยู่ภายใน พื้นที่ที่กำกัดไว้ โดยเฉพาะคนงาน ให้อยู่เฉพาะภายในบริเวณแคมป์ตามที่กำหนด โดยออกประกาศกทม.ห้ามเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่เด็ดขาด เพราะเกรงว่าการแพร่ระบาดของโรค จากที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก จะกระจายสู่ชุมชน และสถานที่โดยรอบเพิ่มมากขึ้น
ขณะการตรวจหาเชื้อพบกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อใหม่อีก 1 คลัสเตอร์ ที่แคมป์คนงานก่อสร้าง ในเขตบางพลัด ซึ่งได้ปิดแคมป์ และสอบสวนโรคค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงเพิ่มเติมส่งผลให้ขณะนี้มี พื้นที่เสี่ยงระบาดโควิดทั้งหมด 36 คลัสเตอร์ อยู่ระหว่างการสอบสวน ควบคุมโรค 27 คลัสเตอร์ และ 8 คลัสเตอร์ สามารถควบคุมได้และใกล้ปิดการสอบสวนโรคแล้ว พร้อมขอความร่วมมือทุกคน เจ้าของกิจการร้านค้า บริษัทต่าง ๆ ตลาด ชุมชน ช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สถานการณ์แพร่ระบาดดีขึ้นโดยเร็ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :