วันนี้(23 พ.ค.64) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย โพสต์เพซบุ๊ ระบุถึงการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ตอนที่ 1 ว่า
เรากำลังเผชิญกับมหาวิกฤติโรคร้าย ที่ได้สร้างความทุกข์ยากให้กับประชาชนคนไทยทั้งต่อสุขภาพ และสภาพเศรษฐกิจ
ดังนั้น คงไม่มีภารกิจอื่นใดที่สำคัญไปกว่าการควบคุมโควิด-19 ที่ทุกประเทศล้วนมีแผนจะสยบโควิด ให้จบภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตปกติ และทำมาให้กินได้อีกครั้ง
แต่รัฐบาลไทยกลับจัดงบประมาณปี 65 ให้กระทรวงกลาโหมสูงถึง 203,282 ล้านบาท ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ที่มีหน้าที่ต้องออกไปสู้รบกับโควิด-19 กลับจัดให้เพียง 153,940 ล้านบาท
ศัตรูที่ต้องสู้รบขณะนี้คือเชื้อโรคโควิด ตัวเล็กๆ ที่ต้องใช้ “วัคซีน” คุณภาพดีเป็นอาวุธ ไม่ใช่รถถัง หรือเรือดำน้ำ ทำไมรัฐบาลประยุทธ์ ถึงต้องให้เงินกองทัพมากมายขนาดนั้น?
ในปีนี้ ที่เรากำลังเผชิญกับวิกฤติโรคระบาด รัฐบาลต้องจัดงบประมาณให้ตอบโจทย์ต่อการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประชาชนและประเทศชาติก่อน
รัฐบาลจึงควรทุ่มประมาณไปการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นลำดับแรกก่อน โดยเฉพาะการเร่งจัดซื้อ “วัคซีน” คุณภาพดีหลากหลายชนิด ให้เพียงพอที่จะฉีดให้คนไทยได้ทุกคนอย่างรวดเร็วที่สุด
เพราะขณะนี้เรามีโควิดเข้ามาระบาดในประเทศไทยถึง 3-4 สายพันธุ์แล้ว แต่กลับมีวัคซีนเพียง 2 ชนิดเท่านั้น
นอกจากนั้น เรายังต้องจัดงบประมาณให้นักรบของเรา คือบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุข ที่ทำงานเหนื่อยยาก และที่สำคัญต้องจัดงบประมาณ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของระบบสาธารณสุขไทย ให้เพียงพอต่อการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคร้าย ทั้งเตียง อุปกรณ์ เครื่องมือที่จำเป็นรวมทั้งเพิ่มการตรวจเชิงรุก
“ดิฉันจึงอยากจะขอร้อง พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม ได้โปรดทบทวนการจัดงบประมาณประจำปี 2565 ตามเหตุผลที่ดิฉันได้กล่าวมาข้างต้น
ดิฉันเข้าใจดีว่ากองทัพจำเป็นต้องมีการพัฒนา แต่จะ “ขอให้กองทัพได้โปรดเสียสละชะลอโครงการต่างๆ ไว้เพียงแค่ปีนี้ ปีเดียว” เพื่อระดมงบประมาณเอาไปต่อสู้กับโรคร้าย และช่วยเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กับประชาชนให้รอดเสียก่อน
แต่ถ้ายังดึงดันจัดงบประมาณกันแบบนี้ไม่ใช่ #ไทยชนะ แต่จะเป็น #ใครชนะ ทุกท่านคงรู้อยู่แก่ใจ” แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ระบุ
ข่าวที่่เกี่ยวข้อง :