"Sinovac" ลดการตายได้ 97% "หมอเฉลิมชัย" ชี้ที่อุรุกวัยลดป่วยหนักได้ 95%

รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยระบุข้อความว่า  
    วัคซีน Sinovac (ซิโนแวค)มีประสิทธิผล ลดการตายได้ 97%  จากการฉีดที่อุรุกวัยกว่า 712,000 ราย
    ประเทศอุรุกวัย ซึ่งมีประชากร 3.5 ล้านคน ในช่วงแรกมีการติดเชื้อที่ไม่ระบาดรุนแรง จึงไม่มีการล็อกดาวน์ แต่ในระยะหลัง มาตรการและวินัยตามปกติ ไม่สามารถรับมือกับการระบาดของโควิดได้ทำให้เป็นประเทศที่มีอัตราผู้เสียชีวิตต่อจำนวนประชากรสูงในลำดับต้นต้นของโลก 
    อุรุกวัยจึงเร่งฉีดวัคซีนขนานใหญ่ ช่วงที่ผ่านมาฉีดไป 862,000คน เป็นวัคซีน Sinovac 712,000 คนวัคซีนไฟเซอร์ 150,000 คน ทำให้เกิดการรวบรวมตัวเลขว่าประสิทธิผลในการป้องกันในโลกแห่งความเป็นจริง (Effectiveness)ของวัคซีนสองชนิดนี้เป็นอย่างไร
    ได้ตัวเลขออกมาที่น่าสนใจดังนี้
    วัคซีน Sinovac ลดการเสียชีวิตได้ 97% 
    ลดการป่วยที่มีอาการหนักได้ 95% และลดการติดเชื้อทั่วไปได้ 57%
    ในขณะที่วัคซีนของบริษัท Pfizer ลดการเสียชีวิตได้ 80%
    ลดการป่วยที่มีอาการหนักได้ 99% และลดการติดเชื้อทั่วไปได้ 75%

    จะเห็นได้ว่าวัคซีนของ Sinovac มีประสิทธิผลในการป้องกันการตายได้สูงถึง 97% แต่ทางกระทรวงสาธารณสุขอุรุกวัยก็ได้ออกมาเตือนว่า ไม่สามารถจะนำตัวเลขสองชุด ของสองบริษัทมาเปรียบเทียบกันได้ เพราะวัคซีนของ Sinovac นั้นฉีดในประชาชนกลุ่มที่มีความเสี่ยงของโรคน้อยกว่า ส่วนวัคซีนขอว Pfizer จะฉีดในประชาชนกลุ่มเสี่ยงมากกว่าโดยเฉพาะผู้สูงอายุ จึงทำให้ตัวเลขดังกล่าวเปรียบเทียบโดยตรงไม่ได้
    แต่อย่างไรก็ตาม ทำให้หลากหลายประเทศที่ฉีด Sinovac มีข้อมูลที่สร้างความมั่นใจมากขึ้น โดยเฉพาะลดการป่วยหนักและลดการเสียชีวิตลงได้ 95% และ 97% ตามลำดับ
    ส่วนตัวเลขของวัคซีน Sinovac ที่ฉีดในประเทศต่างๆ มีดังนี้
    ที่ชิลีลดการเสียชีวิตได้ 80% 
    ลดการติดเชื้อได้ 67%
    ฉีดที่บราซิลลดการติดเชื้อได้ 50% ฉีดที่ตุรกีลดการติดเชื้อได้ 91%
    ประสิทธิผลของวัคซีน จะแตกต่างไปตามประเทศ ตามชนิดของไวรัสกลายพันธุ์ และตามกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกัน
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมข้อมูลการฉีดวัคซีนของประเทศไทยจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข วันที่ 28 ก.พ.-29 พ.ค. 64  พบว่า มีการฉีดไปแล้ว 3,548,330 โดส ประกอบด้วย เข็มที่ 1 ฉีดสะสมอยู่ที่จำนวน 2,453,807 ราย และเข็มที่ 2 ฉีดสะสมที่จำนวน 1,094,523 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ตรวจภูมิต้านทานหลังฉีดวัคซีนโควิดไม่จำเป็น "หมอยง" ชี้การกระตุ้นเข็ม 3 ยังไม่มีข้อยุติ
• 4 สถานที่เสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19 "หมอธีระ" ยังระบาดต่อเนื่อง
• "วัคซีนทางเลือก" อยากฉีดต้องจ่ายเงินเอง "ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์" เคลียร์ชัด
• พุ่งไม่หยุด ยอดโควิดวันนี้ ติดเชื้อเพิ่ม 5,485 ราย เสียชีวิต 19 คน
• เปิดเบื้องหลัง "หมอศิริราช" เชือดนิ่มศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม