ทหารเมียนมา รบกองกำลังกะเหรี่ยง ล่าสุดมีกระสุนอาร์พีจีถูกยิงเข้าเขตไทย ตกใกล้คอกวัวบริเวณโค้งเมย แม่สอด จุดรวมพลผู้หนีภัยสู้รบกว่า 400 คน ทำวงแตกทั้งเจ้าหน้าที่ทหารและผู้ลี้ภัย โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก ยังคงตึงเครียด จากทหารรัฐบาลเมียนมา ที่สถานการณ์สู้รบระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมา กับกองกำลังทหารกะเหรี่ยงดีเคบีเอ.กลุ่มอิสระ ของพันเอกจ่อแต้ เป็นไปอย่างดุเดือด มีการใช้ทั้งอาวุธปืนค.60 และอาวุธอื่น ๆ นั้น
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.2564ทางฝ่ายทหารเมียนมาได้ใช้ปืนอาร์พีจี.ยิงเข้ามาเขตไทย ลงไปใกล้จุดผู้ลี้ภัยกว่า 400 คน ที่อาศัยอยู่ในคอกวัวบริเวณเมยโค้ง หรือใกล้เกาะมะนาว บ้านแม่โกนเกน ตำบลมหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก กระสุนได้เกิดระเบิดขึ้น แต่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ไทย ทั้งทหาร ฝ่ายปกครอง รวมถึงผู้ลี้ภัย ต่างแตกตื่นหลบกันจ้าละหวั่น
ล่าสุด มีผู้หนีภัยการสู้รบข้ามลำน้ำเมยซึ่งเป็นเส้นพรนแดนเข้ามาอีก 31 คน แม้นมีการสู้รบ เจ้าหน้าที่ก็ยังคงให้กลุ่มผู้หนีภัยอยู่ในคอกวัวของชาวบ้านใกล้กับแม่น้ำเมย
การสู้รบดังกล่าว ฝ่ายเมียนมาได้ใช้อาวุธปืนค.61 ยิงสนับสนุนจากฐานอาวุธหนัก ที่บริเวณเลเกตอ ห่างจากบ้านผาลูโพ จังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา
แหล่งข่าวแจ้งว่า กลุ่มกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) ได้ร่วมกับฝ่ายทหารดีเคบีเอ.ในการโจมตีทหารเมียนมา และล่าสุดฝ่ายกะเหรี่ยงดีเคบีเอได้ปล่อยตัวตำรวจเมียนมา และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ทั้งหมด 4 คนแล้ว โดยไม่ทำอันตรายใด ๆ
ช่วงนี้มีการปะทะหนักระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังชนกลุ่มน้อยตามแนวตะเข็บชายแดน โดยเกิดการปะทะอย่างหนักในรัฐคะยา และ รัฐกะเหรี่ยง หลังกองทหารฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซุ่มโจมตีทหารเมียนมาในหลายพื้นที่
ขณะที่ชายแดนด้านจังหวัดแม่ฮ่องสอน ฝ่ายปกครองดูแลผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงอย่างใกล้ชิด ขณะที่ผู้ลี้ภัยจำนวนหนึ่งได้เดินทางกลับสู่เมียนมา หลังการสู้รบพื้นที่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ได้สงบต่อเนื่องมาแล้วหลายวัน
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้อำนวยการศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้แถลงถึงสถานการณ์ ชายแดนไทย-เมียนมา ถึงการสู้รบในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง บริเวณฐานด๊ากวิน ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ในพื้นที่ตรงข้ามบ้านท่าตาฝั่ง เขตเมียนม่า รัฐกะเหรี่ยง ไม่มีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมาฐานด๊ากวิน กับ ทหารกะเหรี่ยง KNLA แต่อย่างใด และการใช้อากาศยานในการโจมตีทางอากาศได้หยุดต่อเนื่องเป็นเวลาต่อเนื่องถึง 32 วันแล้ว
ในส่วนของผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง ที่หลบหนีภัยสงครามเข้ามาในไทย ปัจจุบันเหลือเพียง 255 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว จำนวน 4 แห่งคือห้วยมะระ ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง 7 คน , ห้วยจอกลอ ต.แม่คง ฯ 80 คน , ห้วยโกรเกร๊ะ ต.แม่คง ฯ 135 คน และ บ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง 33 คน ส่วนผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ก่อนหน้านี้ ได้เดินทางกลับไปสหภาพเมียนม่า จำนวน 363 คน
ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้ร่วมกับหน่วยทหาร นำเครื่องอุปโภคและเวชภัณฑ์ ไปมอบให้กับผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงที่ห้วยจอกลอ ซึ่งมีผู้ลี้ภัยอาศัยอยู่จำนวน 80 คนส่วนใหญ่เป็นเด็กและคนชรา
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์การสู้รบในเมียนมา ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา กองกำลังพิทักษ์ประชาชน People Defenfe Force / PDF จำนวน 80 นาย ได้บุกเข้าโจมตีฐานที่มั่นทหารเมียนมา บริเวณหมู่บ้านดอหง่าคา ตั้งอยู่ระหว่างทางหลวงสาย อ.ดีมอโซว์ รัฐคะยา – จ.ตองอู ภาคตองอู ห่างจากจังหวัดลอยก่อว์ประมาณ 11 กม.
ระหว่างการเข้าโจมตีของกองกำลังพิทักษ์ประชาชน PDF อยู่นั้น ทหารเมียนมาในฐานดังกล่าว ได้ร้องขอการสนับสนุนทางทหารและอาวุธหนัก จากกองบัญชาการจังหวัดลอยก่อว์ ทำให้มีการส่งทหารเมียนมา จำนวนไม่ต่ำกว่า 80 นาย เข้ามาช่วยเหลือ ทหารเมียนมาชุดที่บ้านดอหง่าคา ทำให้กองกำลังพิทักษ์ประชาชน ได้แยกกำลังออกไปทำการซุ่มโจมตี และเกิดการสู้รบติดพัน เป็น 2 กลุ่ม
ขณะที่กองบัญชาการทหารจังหวัดลอยก่อว์ ได้สนันสนุนอาวุธหนัก ด้วยการยิงปืนใหญ่ขนาด 105 มม. สนับสนุนจำนวนกว่า 100 นัด พร้อมทั้งสนับสนุนทางอากาศ โดยนำเฮลิคอปเตอร์ โจมตีแบบ MI 35 จำนวน 2 ลำมาปฏิบัติการทางอากาศต่อกองกำลังพิทักษ์ประชาชน เบื้องต้นผลการสู้รบ ทหารเมียนมาเสียชีวิตจำนวน 23 นาย ส่วนกองกำลังพิทักษ์ประชาชน เสียชีวิตจำนวน 6 นาย และบาดเจ็บอีก 2 นาย
ในส่วนของพื้นที่รัฐกะเหรี่ยง เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา กองกำลัง KNLA/KNU จากกองพัน 102 ได้ทำการซุ่มโจมตียานยนต์ลำเลียงเสบียงอาหารและเวชภัณฑ์ ของทหารเมียนมา จำนวน 11 คัน ที่วิ่งเข้ามาในพื้นที่ กองพลน้อยที่ 5 เขตมูตรอ จ.ผาปูน เพื่อส่งเสบียงและยุทธปัจจัยให้กับทหารเมียนมาในแนวหน้า ที่กำลังสู้รบกับทหารกะเหรี่ยง ฯ ส่งผลให้ยานพาหนะเสียหายทั้งหมด ซึ่งรวมไปถึงเสบียงอาหารและเวชภัณฑ์ และทหารเมียนมา เสียชีวิต 4 นายและได้บาดเจ็บจำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง